หวัง อี้ ผู้แทนทูตสูงสุดของจีน และเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ได้พูดคุยหารือ "อย่างตรงไปตรงมาและมีสาระ" ในกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย มุ่งเน้นไปที่ประเด็นอ่อนไหว ทั้งในเรื่องไต้หวันและเหตุโจมตีในทะเลแดงโดยฝีมือของพวกฮูตี จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันเสาร์ (27 ม.ค.)
เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งของทำเนียบขาว เปิดเผยว่าการเจรจาที่กินเวลารวมราว 12 ชั่วโมงในช่วง 2 วัน คาดหมายว่าจะเป็นการเปิดทางให้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ปักกิ่งและวอชิงตันกระทบกระทั่งกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเด็นล่อแหลมต่างๆ ไล่ตั้งแต่เทคโนโลยี การค้า ไปจนถึงสิทธิมนุษยชน เช่นเดียวกับเรื่องเกี่ยวกับเกาะปกครองตนเองไต้หวัน และคำกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้
ความสัมพันธ์ทรงตัวมาตั้งแต่ครั้งที่ ไบเดน และ สี พบปะกันในซานฟรานซิโก เมื่อเดือนพฤศจิกายน ในการเจรจาที่ทั้ง 2 ฝ่ายให้คำจำกัดความว่าประสบความสำเร็จเพียงบางส่วน
ถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศจีนที่เผยแพร่บนเว็ไซต์ในวันเสาร์ (27 ม.ค.) ระบุว่า "หวังและซัลลิแวน มีการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา มีสาระและออกดอกออกผลในทางยุทธศาสตร์ ในการนำฉันทมติที่เห็นพ้องร่วมกัน ณ การประชุมที่ซานฟรานซิโก ไปสู่การปฏิบัติ และในด้านการจัดการอย่างเหมาะสมในประเด็นสำคัญและอ่อนไหวต่างๆ ในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ"
ทำเนียบขาวให้คำจำกัดความการพูดคุยในทิศทางเดียวกับฝ่ายจีน พร้อมระบุว่าการประชุมครั้งนี้ "เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามคงไว้ซึ่งการเปิดสายการสื่อสาร และการบริหารจัดการการแข่งขันด้วยความรับผิดชอบในความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ"
ในกรุงเทพฯ ซัลลิแวน ขอให้ อี้ กดดันเตหะราน ให้หยุดพวกกบฏฮูตีจากการโจมตีเรือขนส่งสินค้าในทะเลแดง "มิสเตอร์ซัลลิแวน หยิบยกความสำคัญที่ปักกิ่งควรใช้อิทธิพลของพวกเขางัดข้ออิหร่าน เรียกร้องให้หยุดการโจมตีโดยกบฏฮูตี และทำให้การโจมตีของพวกฮูตียุติลง" เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุ
เจ้าหน้าที่รายนี้เปิดเผยต่อว่า "จีนได้บอกกับเราตรงๆ กับสิ่งที่พวกเขากำลังหยิบยกขึ้นพูดคุยกับอิหร่าน แต่ฉันคิดว่า เราควรมองไปที่ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงๆ ในพื้นที่ และการโจมตีเหล่านี้ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง"
ในเรื่องเกี่ยวกับความเป็นพันธมิตรระหว่างปักกิ่งกับเปียงยาง ทางซัลลิแวน แสดงความกังวลเกี่ยวกับการทดสอบอาวุธของเกาหลีเหนือเมื่อเร็วๆ นี้ เช่นเดียวกับกรณีที่พวกเขามีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นยิ่งขึ้นกับมอสโก
"เรามีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับการทดสอบอาวุธเร็วๆ นี้ เรามีความกังวลอย่างยิ่งกับความสัมพันธ์ที่เติบโตขึ้นระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ และเจตนาที่แท้จริงของมิสเตอร์คิม" เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าว อ้างถึง คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ
เกาหลีเหนือได้เร่งเครื่องทดสอบอาวุธและข่มขู่ใส่เกาหลีใต้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พร้อมกับมอบอาวุธแก่รัสเซีย สำหรับนำไปใช้ทำสงครามกับยูเครน
เมื่อเร็วๆ นี้ สหรัฐฯ และจีน 2 ชาติมหาอำนาจ ยังกระทบกระทั่งกันเกี่ยวกับเกาะปกครองตนเองไต้หวัน ซึ่งปักกิ่งกล่าวอ้างเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน และเพิ่งจัดเลือกตั้งไปในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา
พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ซึ่งปฏิเสธคำกล่าวอ้างของจีนที่มีเหนือเกาะแห่งนี้ คว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน ในขณะที่ก่อนถึงศึกเลือกตั้ง พวกเจ้าหน้าที่จีนพากันออกมาประณาม ไล่ ชิงเต๋อ ว่าที่ประธานาธิบดี ว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดนที่อันตราย ซึ่งจะนำไต้หวันมุ่งหน้าสู่เส้นทางปีศาจแห่งการประกาศเอกราช
ในสัปดาห์นี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ 2 คน ได้เดินทางไปพบปะกับ ไล่ ที่ไทเป เพื่อเน้นย้ำแรงสนับสนุนของวอชิงตันที่มีต่อไต้หวัน ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นหลังจาก ไบเดน ส่งผู้แทนทูตอย่างไม่เป็นทางการรายหนึ่ง ไปแสดงความยินดีกับ ไล่ ไม่นานหลังจากรู้ผลการเลือกตั้ง
ระหว่างการเจรจาล่าสุด หวัง เน้นย้ำว่า ไต้หวัน "เป็นกิจการภายในของจีน และการเลือกตั้งท้องถิ่นในไต้หวันไม่อาจเปลี่ยนความเป็นจริงพื้นฐานที่ว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน" ถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุ "ความเสี่ยงใหญ่หลวงที่สุดที่มีต่อสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน คือสิ่งที่เรียกว่าความเคลื่อนไหวเอกราชของไต้หวัน ความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ก็คือความเคลื่อนไหวเอกราชไต้หวันเช่นกัน"
ทำเนียบขาวระบุว่า "ซัลลิแวน ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน" จากการเปิดเผยของทำเนียบขาว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
การประชุม 2 วัน ยังได้มีการพูดคุยหารือกันในประเด็นตะวันออกกลาง ยูเครน ทะเลจีนใต้และประเด็นระหว่างประเทศอื่นๆ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ 2 ฝ่าย ทั้งนี้พวกเขายังเห็นพ้องจัดตั้งกลุ่มทำงานร่วมในความร่วมมือต่อต้านยาเสพติด เช่นเดียวกับจัดการพูดคุยระหว่างรัฐบาลในเรื่องปัญญาประดิษฐ์ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
"ทั้ง 2 คน ตระหนักถึงความก้าวหน้าเมื่อเร็วๆ นี้ ในการคืนสู่การติดต่อสื่อสารทางทหารระหว่างกัน และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการธำรงไว้ซึ่งช่องทางเหล่านี้" ทำเนียบขาวระบุ
(ที่มา : เอเอฟพี)