พวกนักรบที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ยิงขีปนาวุธเข้าใส่ฐานที่มั่นแห่งหนึ่งที่ใช้สำหรับรองรับกองกำลังสหรัฐฯ ทางตะวันตกของอิรัก ส่งผลให้มีกำลังพลอิรักและบุคลากรอเมริกาได้รับบาดเจ็บ จากการเปิดเผยของกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (CENTCOM) ในวันเสาร์ (20 ม.ค.)
"ขีปนาวุธและจรวดหลายลูกถูกยิงโดยกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในภาคตะวันตกของอิรัก เล็งเป้าเล่นงานฐานทัพอากาศอัล-อัสซาด" CENTCOM ระบุในข้อความที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งระบุวันเวลาของการโจมตีที่ 18.30 น.ตามเวลาแบกแดด (ตรงกับเมืองไทย 22.30 น.ของวันเสาร์)
ถ้อยแถลงระบุว่า จรวดและขีปนาวุธเกือบทั้งหมดถูกสกัดไว้ได้โดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของกองทัพ แต่มันส่งผลกระทบอื่นๆ ต่อฐานทัพแห่งนี้ "บุคลากรสหรัฐฯ จำนวนหนึ่ง กำลังเข้ารับการประเมินอาการบาดเจ็บทางสมอง และมีกำลังพลอิรักอย่างน้อย 1 รายได้รับบาดเจ็บ"
นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคม มีเหตุโจมตีเล่นงานกองกำลังสหรัฐฯ และพันธมิตรในอิรักและซีเรียหลายต่อหลายครั้ง ขณะที่กำลังพลเหล่านี้ถูกส่งเข้าประจำการในอิรัก ก็เพื่อสู้รบกับพวกนักรบญิฮาดจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
เหตุโจมตีส่วนใหญ่กล่าวอ้างความรับผิดชอบโดยขบวนการต่อต้านเพื่ออิสลาม (Islamic Resistance) ในอิรัก ซึ่งเป็นการจับมือกันเป็นพันธมิตรหลวมๆ ของกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับอิหร่าน ซึ่งต่อต้านสหรัฐฯ ต่อกรณีที่ให้การสนับสนุนอิสราเอลในความขัดแย้งกับนักรบฮามาสในกาซา
ทางกลุ่มเผยแพร่ถ้อยแถลงในวันเสาร์ (20 ม.ค.) ยืนยันว่าพวกเขาเป็นผู้ลงมือในเหตุโจมตีหนล่าสุด
การใช้ขีปนาวุธในการโจมตี ถือเป็นการยกระดับโจมตีกองกำลังสหรัฐฯ ในอิรักและซีเรีย ซึ่งก่อนหน้านี้มักตกเป็นเป้าหมายเล่นงานด้วยจรวดเทคโนโยลีต่ำๆ และโดรนไม่ล้ำสมัย
เหตุโจมตีฐานทัพอากาศในวันอาทิตย์ (21 ม.ค.) เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่พุ่งสูงขึ้นในตะวันออกกลาง ตามหลังการปะทุขึ้นของสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในวันที่ 7 ตุลาคม
สมาชิกกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน 5 นาย ถูกสังหารเช่นกันในวันเสาร์ (20 ม.ค.) ในเหตุโจมตีในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย ที่ทางอิหร่านกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล พร้อมกับขู่แก้แค้น
เมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ที่แล้ว (15 ม.ค.) ตัวอิหร่านเองได้เปิดฉากโจมตีนองเลือดเล่นงานแคว้นเคอร์ดิสถาน ดินแดนปกครองตนเองของอิรัก โดยอ้างว่าพวกเขาเล็งเป้าถล่มที่ตั้งแห่งหนึ่งที่ถูกใช้งานโดยพวกสายลับรัฐบาลไซออนิสต์ (หน่วยมอสซาดของอิสราเอล)
ส่วนสหรัฐฯ ได้เปิดปฏิบัติการโจมตีของตนเองไปแล้วหลายครั้งเช่นกัน ซึ่งพวกเขาอ้างว่าเพื่อขัดขวางไม่ให้มีเหตุโจมตีกำลังพลของพวกเขาเพิ่มเติม และสกัดการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะ
จากข้อมูลของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ พบว่ามีบุคลากรอเมริกาหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยในเหตุโจมตีที่ผ่านๆ มา นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม ขณะที่ปัจจุบันมีทหารสหรัฐฯ ประจำการอยู่ในอิรัก 2,500 นาย และอีกราว 900 นายในซีเรีย
(ที่มา : เอเอฟพี)