รัฐบาลสหรัฐฯ ในวันพุธ (17 ม.ค.) กลับมาขึ้นบัญชีดำกบฏฮูตีในเยเมน ในฐานะกลุ่มก่อการร้าย ในความพยายามล่าสุดของวอชิงตันที่พยายามสกัดการโจมตีต่างๆ ที่เล็งเป้าเล่นงานการเดินเรือสินค้าระหว่างประเทศ
เจ้าหน้าที่ระบุว่าบัญชีดำกลุ่มก่อการร้ายระดับโลกที่ต้องการตัวมากเป็นพิเศษ หรือ Specially Designated Global Terrorist group (SDGT) ซึ่งจะเล่นงานนักรบกลุ่มนี้ที่เป็นพันธมิตรกับอิหร่านด้วยมาตรการคว่ำบาตรรุนแรง มีเป้าหมายตัดเงินทุนและอาวุธที่ฮูตีใช้โจมตี หรือจี้ชิงเรือในทะเลแดง เส้นทางการเดินเรืออันสำคัญ
"การขึ้นบัญชีดำครั้งนี้เป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะขัดขวางเงินทุนก่อการร้ายที่ป้อนแก่ฮูตี สกัดพวกเขาเพิ่มเติมจากการเข้าถึงตลาดเงิน และลงโทษพวกเขาต่อการกระทำต่างๆ" เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง "ถ้าพวกฮูตีหยุดการโจมตีในทะเลแดงและอ่าวเอเดน สหรัฐฯ จะทำการประเมินใหม่บัญชีดำนี้ในทันที"
รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังประกาศแยกแยะที่มีเป้าหมายหลีกเลี่ยงก่อผลกระทบกับประชาชนชาวเยเมน ซึ่งยังคงพึ่งพิงการนำเข้าอาหารและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม พร้อมกับสัญญาว่าจะทำการติดต่อกับกลุ่มต่างๆ ในนั้นรวมถึงองค์กรช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ทั้งหลายเสียก่อน แล้วถึงค่อยให้การขึ้นบัญชีดำครั้งนี้มีผลบังคับใช้ภายใน 30 วัน เพื่อให้มีเวลาเพียงพอต่อการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในเยเมน
ยุทธการของพวกฮูตีก่อความวุ่นวายแก่การค้าโลก โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและสร้างความวิตกมากยิ่งขึ้นว่าผลกระทบจากสงครามอิสราเอล-ฮามาส อาจบั่นทอนเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไบเดน เรียกว่าฮูตี ว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ในขณะที่เครื่องบินรบ เรือรบและเรือดำน้ำ ของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรเปิดฉากโจมตีทางอากาศหลายสิบรอบเล็งเป้าเล่นงานพวกฮูตี ซึ่งควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเยเมน
กองทัพสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (16 ม.ค.) ว่าการโจมตีระลอกล่าสุดของพวกเขา ได้เล่นงานขีปนาวุธต่อต้านเรือของฮูตี 4 ระบบ
โมฮัดเมด อับดุลซาลาม โฆษกของฮูตี บอกกับรอยเตอร์ในวันพุธ (17 ม.ค.) ว่าการขึ้นบัญชีดำดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อปฏิบัติการของพวกเขา ซึ่งทางกลุ่มอ้างว่าเป็นแสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ และมีเป้าหมายเล่นงานเรืออิสราเอลหรือเรือต่างๆ ที่กำลังมุ่งหน้าสู่อิสราเอล
การโจมตีเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการตอบโต้อย่างกว้างขวางต่อความขัดแย้งในกาซา ของกลุ่มที่เรียกว่า Axis of Resistance หรืออักษะแห่งการต่อต้าน ในนั้นประกอบด้วยฮูตี นักรบปาเลสไตน์ฮามาส ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน และบรรดากลุ่มติดอาวุธชีอะห์ทั้งหลายในอิรัก ซึ่งล้วนมีความเชื่อมโยงกับอิหร่าน ศัตรูตัวฉกาจของสหรัฐฯ
พันธมิตรทหารที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ได้เข้าแทรกแซงในเยเมนเมื่อปี 2015 เพื่อสนับสนุนกองกำลังรัฐบาลที่สู้รบกับพวกฮูตี ในสงครามที่ถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นความขัดแย้งตัวแทนระหว่างซาอุดีอาระเบีย พันธมิตรของสหรัฐฯ กับอิหร่าน
รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใส่ชื่อฮูตี เข้าไปในบัญชีดำ 2 บัญชี ที่กำหนดให้พวกเขาเป็นกลุ่มก่อการร้าย เพียง 1 วันก่อนหมดวาระการดำรงตำแหน่ง แต่สหประชาชาติ องค์กรบรรเทาทุกข์ทั้งหลายและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ บางส่วน แสดงความกังวลว่า มาตรการคว่ำบาตรอาจก่อความวุ่นวายแก่กระแสอาหาร เชื้อเพลิงและสิ่งอุปโภคบริโภคทั้งหลายที่ป้อนเข้าสู่เยเมน
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เพิกถอนบัญชีดำดังกล่าว ไม่กี่วันหลังเข้ารับตำแหน่งในปี 2021 อ้างอิงความกังวลว่ามาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวอาจก่อความปั่นป่วนแก่กระแสสินค้ามนุษยธรรมที่สำคัญที่ป้อนเข้าสู่เยเมน
ทั้งนี้ ในวันพุธ (17 ม.ค.) ฮูตี ถูกใส่กลับเข้าไปในบัญชีดำ SDGT แต่ไม่ใช่ในฐานะองค์กรก่อการร้ายต่างชาติ (FTO) ซึ่งอยู่ภายใต้ข้อห้ามต่างๆ เข้มข้นกว่า ต่อการมอบแรงสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมแก่พวกที่อยู่ในบัญชีดำนี้ และจะหมายถึงการแบนด้านการเดินทางโดยอัตโนมัติ ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บอกว่ามันจะทำให้การให้ข้อยกเว้นด้านสินค้ามนุษยธรรมทำได้ง่ายกว่า จากมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ
สหประชาชาติให้คำจำกัดความวิกฤตด้านมนุษยธรรมในเยเมน ว่า "รุนแรง" ด้วยประชาชนมากกว่า 21 ล้านคน หรือ 2 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดมีความจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ พวกเขาบอกว่ามากกว่า 80% ของประชาชนประสบปัญหาในการเข้าถึงอาหาร น้ำดื่มที่ปลอดภัย และบริการทางสุขภาพอย่างเพียงพอ
โดยสหประชาชาติบอกว่าพวกเขาจะเดินหน้ามอบความช่วยเหลือในเยเมนต่อไป แต่เรียกร้องขอความชัดเจนจากวอชิงตันเกี่ยวกับข้อยกเว้นต่างๆ และสนับสนุนให้เดินหน้ากิจกรรมด้านการค้าต่อไป
(ที่มา : รอยเตอร์)
