xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมันทรงตัว-ทองคำลงหลังดอลล์แข็งค่า หุ้นสหรัฐฯ ปิดลบจากผลประกอบการธนาคาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ราคาน้ำมันทรงตัวในวันอังคาร (16 ม.ค.) จากดอลลาร์แข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือน แต่ได้แรงหนุนจากความกังวลทางอุปทานพลังงาน อันเนื่องจากความตึงเครียดที่ลุกลามในตะวันออกกลาง ปัจจัยการแข็งค่าของสกุลเงินสหรัฐฯ ฉุดทองคำปรับลด ขณะที่วอลล์สตรีทปิดลบ ท่ามกลางรายงานผลประกอบการของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 28 เซนต์ ปิดที่ 72.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ ปิดที่ 78.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ตลาดน้ำมันได้แรงหนุนจากสัญญาณสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางลุกลามบานปลาย ในขณะที่กองทัพสหรัฐฯ เปิดปฏิบัติการโจมตีรอบใหม่ในเยเมน เล่นงานขีปนาวุธต่อต้านเรือของกบฏฮูตี

ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการตอบโต้พวกฮูตี ที่เล่นงานเรือต่างๆ ในทะเลแดง ซึ่งก่อความวุ่นวายแก่การขนส่งสินค้าโลกที่ล่องผ่านเส้นทางเดินเรือสินค้าอันสำคัญนี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันปิดในกรอบแคบๆ เนื่องจากอีกด้านหนึ่งถูกฉุดจากดอลลาร์ที่แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน นักลงทุนลดความคาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดดดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นสำหรับผู้ซื่อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ ซึ่งมันอาจบั่นทอนอุปสงค์พลังงาน

ส่วนราคาทองคำลดลงกว่า 1% ในวันอังคาร (16 ม.ค.) ถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการดีดตัวขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 21.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,030.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในแดนลบในวันอังคาร (16 ม.ค.) หลังรายงานผลประกอบการที่ผสมผสานของมอร์แกน สแตนลีย์ และโกลด์แมนแซคส์ ก่อแรงกดดันแก่ภาคธนาคาร ขณะที่แรงเทขายในโบอิ้งและแอปเปิล เป็นตัวถ่วงหลักของเอสแอนด์พี500

ดาวโจนส์ ลดลง 231.86 จุด (0.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 37,361.12 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 17.85 จุด 0.37 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,765.98 จุด แนสแดค ลดลง 28.41 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,944.35 จุด

มอร์แกน สแตนลีย์ ดิ่งลง 4.2% สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน หลังรายงานผลกำไรรายไตรมาสลดลง ส่วนโกลด์แมนแซค ปิดบวก 0.7% หลังรายงานมีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 51%

ขณะเดียวกัน แอปเปิล ปรับลด 1.2% หลังเสนอลดราคาไอโฟนอย่างที่ไม่ค่อยพบเห็นนักในจีน ตอบสนองต่อการแข่งขันอันเข้มข้นในแผ่นดินใหญ่ ไม่กี่วันหลังจากถูกไมโครซอฟท์แซงหน้าในฐานะบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น