ผู้บัญชาการกองทัพอิสราเอลในวันพุธ (10 ม.ค.) คุยโวว่ากำลังพลของเขามีศักยภาพทำลายหมู่บ้านใดก็ได้ในเลบานอน ความเคลื่อนไหวยกระดับคำขู่ทางวาจาที่มีต่อกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ ในขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายเปิดยิงตอบโต้ข้ามชายแดนกันหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางวิกฤตสงครามในฉนวนกาซาระหว่างอิสราเอลกับฮามาส พันธมิตรของฮิซบอลเลาะห์
กองทัพอิสราเอลยิงปะทะกับกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านและเป็นพันธมิตรสำคัญของกลุ่มนักรบปาเลสไตน "ฮามาส" เกือบทุกวัน นับตั้งแต่สงครามในกาซาปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
พล.ท.เฮอร์ซี ฮาเลวี เสนาธิการกองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล บอกกับกำลังพลที่รวมตัวกันในกาซา ว่า ภารกิจของพวกเขาในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อมแห่งนี้ ทำให้เขามีความมั่นใจว่ากำลังพลเหล่านี้มีศักยภาพสู้รบในดินแดนของเลบานอนเช่นกัน ถ้ามีความจำเป็น
"เราสู้รบในกาซา ดังนั้นเราจึงรู้วิธีที่จะทำมันในเลบานอน" ถ้อยแถลงของกองทัพอิสราเอล อ้างอิงคำกล่าวของ พล.ท.ฮาเลวี "หลังจากสิ่งที่คุณทำในกาซา ไม่มีหมู่บ้านหนึ่งใดในเลบานอนที่คุณไม่อาจบุกเข้าไปทำลายได้"
นับตั้งแต่สถานการณ์ตามแนวชายแดนเริ่มลุกลามบานปลาย มีผู้เสียชีวิตในฝั่งของเลบานอนแล้ว 188 ราย ในนั้น 141 เป็นสมาชิกฮิซบอลเลาะห์และพลเรือนอีกกว่า 20 คน ในนั้นเป็นผู้สื่อขาว 3 คน ขณะที่กองทัพอิสราเอลเผยว่ามีชาวอิสราเอลเสียชีวิต 14 ราย ในนั้นเป็นทหาร 9 นาย
ในขณะที่ฮิซบอลเลาะห์บอกว่าพวกเขาเล็งเป้าเล่นงานที่ตั้งทางทหารของอิสราเอล เพื่อสนับสนุนฮามาสและชาวกาซา ทางกองทัพอิสราเอลอ้างว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศและยิงปืนใหญ่ถล่มของพวกเขามีเป้าหมายก่อความปั่นป่วนแก่โครงสร้างพื้นฐานของพวกนักรบ "ชีอะห์" กลุ่มนี้ และความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักรบตามแนวชายแดน
เหตุลอบสังหาร ซาเลห์ อัล-อารูรี รองหัวหน้ากลุ่มฮามาสและคนใกล้ชิดของเขา 6 คน ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในป้อมปราการของฮิซบอลเลาะห์ ทางใต้ของกรุงเบรุต เมื่อวันที่ 2 มกราคม และเหตุสังหาร วิสซาม ตาวิล ผู้บัญชาการภาคสนามระดับสูงรายหนึ่งของฮิซบอลเลาะห์ เมื่อวันจันทร์ (8 ม.ค.) ซึ่งฮิซบอลเลาะห์กล่าวโทษทั้ง 2 เหตุการณ์ว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล โหมกระพือความกังวลว่าความขัดแย้งอาจลุกลามในวงกว้าง
สถานการณ์ความตึงเครียดที่ลุกลาม กระต้นให้บรรดาผู้แทนทูตตะวันตกมาบรรจบกันที่กรุงเบรุต เรียกร้องให้อดทนอดกลั้นและพูดคุยทางออกที่เป็นไปได้ต่างๆ โดยคนล่าสุดนั้นได้แก่ อันนาเลนา แบร์บ็อค รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ซึ่งพบปะกับบรรดาเจ้าหน้าที่ของเลบานอนในวันพุธ (10 ม.ค.)
แบร์บ็อค เรียกร้องทุกฝ่ายป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์ลุกลามบานปลายตามแนว Blue Line ซึ่งลากโดยสหประชาชาติในปี 2000 หลังอิสราเอลถอนทัพจากทางใต้ของเลบานอน ขณะที่ อามอส ฮอชสเตน ผู้แทนทูตสหรัฐฯ จะร่วมประชุมหลายรอบในเบรุตในวันพฤหัสบดี (11 ม.ค.) ส่วนหนึ่งของการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ
โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู กล่าวระหว่างแถลงข่าวในเบรุต เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนพบปะกับบรรดาตัวแทนของฮิซบอลเลาะห์ ว่า "มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงการดึงเลบานอนเข้าสู่ความขัดแย้งระดับภูมิภาค"
(ที่มา : เอเอฟพี)