วิกฤตการณ์ระลอกล่าสุดของเครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์ ของบริษัทโบอิ้ง ทำท่าอาการหนักหน่วงยิ่งขึ้นอีกในวันจันทร์ (8 ม.ค.) หลังจากทั้งยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส และ อะแลสกา แอร์ไลน์ส ต่างแถลงว่าตรวจพบชิ้นส่วนหลายชิ้นในเครื่องบิน 737 แม็กซ์ 9 หลายลำที่พวกเขางดขึ้นบิน ซึ่งนอตหลวมขันเอาไว้ไม่แน่น ก่อให้เกิดความกังวลรอบใหม่ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญของภาคอุตสาหกรรมเกี่ยวกับคุณภาพการผลิตของเครื่องบินรุ่นที่ขายดีที่สุดของโบอิ้งรุ่นนี้
พวกหน่วยงานด้านกำกับตรวจสอบของสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งห้ามนำเครื่องบิน 737 แม็กซ์ 9 จำนวน 171 ลำขึ้นบิน หลังจากเมื่อวันศุกร์ (5) แผ่นหน้าต่างและผนังรอบๆ บานหนึ่งของเที่ยวบินสายการบินอะแลสกา แอร์ไลน์สซึ่งเป็นเครื่องบินรุ่นนี้ ได้เกิดหลุดกลางอากาศ ไม่นานหลังเทกออฟขึ้นจากเมืองพอร์ทแลนด์ รัฐออริกอน บังคับให้นักบินต้องรีบนำเครื่องเลี้ยวกลับและลงจอดฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย
อะแลสกา แอร์ไลน์สแถลงในคืนวันจันทร์ (8) ว่า รายงานเบื้องต้นหลายฉบับจากทีมช่างเทคนิคของตนบ่งชี้ว่า ขณะดำเนินการตรวจสอบฝูงบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9 ซึ่งถูกสั่งงดบินของทางสายการบิน ได้พบเห็น “ฮาร์ดแวร์ที่อยู่ในสภาพหลวม” บางชิ้นในเครื่องบินบางลำในบริเวณซึ่งเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ
เวลานี้บริษัทกำลังรอเอกสารสุดท้ายที่จะจัดส่งมาจากทางโบอิ้ง และทางสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) ก่อนจะสามารถเริ่มการตรวจตราอย่างเป็นทางการ
ขณะที่ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นสายการบินสหรัฐฯ อีกสายหนึ่งที่ใช้เครื่องบินโบอิ้งรุ่นนี้แบบที่มีแผ่นผนังหน้าต่างอย่างเดียวกัน เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นของพวกเขาพบปัญหานอตหลวม ที่จำเป็นต้องขันให้แน่นบนแผ่นผนังเครื่องบินหลายแผ่น
การตรวจพบครั้งนี้ยิ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับกระบวนการผลิตเครื่องบินแม็กซ์ 9 ทั้ง 171 ลำ ที่ถูกสั่งห้ามบิน
แหล่งข่าวรายหนึ่งที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้ บอกกับรอยเตอร์ว่า เวลานี้ยูไนเต็ดพบเครื่องบินที่มีปัญหานอตหลวมแล้ว 10 ลำ และตัวเลขอาจเพิ่มขึ้นกว่านี้
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวหลายรายเปิดเผยว่า ยังคงมีการอภิปรายถกเถียงกันอยู่ระหว่างโบอิ้ง เอฟเอเอ และพวกสายการบิน เกี่ยวกับรายละเอียดของแนวทางปฏิบัติที่จะใช้ในการตรวจสอบอย่างเป็นทางการในคราวนี้ แต่เป็นที่คาดหมายกันว่า โบอิ้งจะสามารถทบทวนและแก้ไขแนวทางปฏิบัติซึ่งได้ส่งไปให้แก่พวกสายการบินตั้งแต่ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ และเอฟเอเอจะต้องอนุมัติการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ก่อนที่สายการบินต่างๆ จะเริ่มดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขได้
บุคคลวงในของอุตสาหกรรมนี้หลายรายบอกว่า สายการบินต่างๆ เริ่มได้ยินเสียงแสดงความกังวลของพวกผู้โดยสารเกี่ยวกับความปลอดภัยของเครื่องบินรุ่นนี้กันแล้ว ถึงแม้แม็กซ์ 9 ที่กำลังเป็นประเด็นนี้ยังคงถูกใช้งานโดยสายการบินเพียงไม่กี่แห่งก็ตาม
ทั้งนี้ ความกังวลที่เรื้อรังใดๆ อาจก่อแรงกดดันเพิ่มเติมแก่โบอิ้ง ซึ่งประสบกับปัญหาด้านการผลิตจำนวนหนึ่ง นับตั้งแต่เครื่องบินในตระกูล 737 แม็กซ์ ของบริษัทถูกสั่งงดบินในเดือนมีนาคม 2019 หลังเกิดเหตุเครื่องบินรุ่นนี้ตก 2 ลำซ้อนทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 346 คน โดยคำสั่งนี้บังคับใช้อยู่นาน 20 เดือน
จอห์น ค็อกซ์ ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยด้านการบินของสหรัฐฯ กล่าวให้ความเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่คราวนี้ ทำให้สถานการณ์แตกต่างจากเดิมอย่างมาก เพราะตอนนี้มันคือปัญหาระดับของฝูงบิน มันคือปัญหาด้านการควบคุมคุณภาพในการผลิตจากโรงงาน
ถึงแม้ข้อมูลที่เผยแพร่กันออกมายังเป็นผลการตรวจสอบเบื้องต้น แต่ในวันจันทร์ (8) หุ้นของโบอิ้งก็ร่วงหนักกว่า 8%
เครื่องบินแบบมีทางเดินภายในห้องโดยสารทางเดินเดียว เป็นโมเดลที่ได้รับการผลิตมากที่สุดของโบอิ้ง เครื่องบินแบบนี้มีแผ่นผนังที่เรียกกันว่า “แผ่นอุดประตู” (door plug) สำหรับใช้แทนที่ช่องทางออกฉุกเฉิน โดยถ้าเป็นเครื่องบินซึ่งมุ่งรับผู้โดยสารจำนวนมากขึ้น ก็จำเป็นต้องมีทางออกฉุกเฉินเช่นนี้ แต่สำหรับพวกสายการบินซึ่งใช้เครื่องบินเวอร์ชันที่มุ่งรับผู้โดยสารจำนวนน้อยกว่า ก็มักเลือกใช้แผ่นอุดประตูนี้มาอุดช่องทางออกฉุกเฉินดังกล่าว
ผู้คนที่คุ้นเคยกับกระบวนการนี้บอกว่า แผ่นผนังนี้ถูกนำมาติดตั้งกับลำตัวเครื่องบินโดยแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน แรกสุดดำเนินการโดยซัปพลายเออร์ที่มีชื่อว่า สปิริต แอโรซิสเตมส์ จากนั้นทางโบอิ้งจะเป็นผู้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ พวกเจ้าหน้าที่สอบสวนกล่าวว่า พวกเขาจะต้องตรวจดูอย่างละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งขั้นตอนที่โรงงานและประวัติการซ่อมบำรุง
ในวันจันทร์ หุ้นของสปิริต แอโรซิสเตมส์ ก็หล่นลง 11%
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเจนซีส์)