วิกฤต 737แม็กซ์ล่าสุดของโบอิ้ง ดูเหมือนจะหนักหน่วงยิ่งขึ้นในวันจันทร์ (8 ม.ค.) หลังจากยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส เปิดเผยว่าตรวจพบสลักเกลียวหลวมในเครื่องบินแม็กซ์ 9 หลายลำ ที่พวกเขางดขึ้นบิน ก่อความกังวลรอบใหม่ในบรรดาผู้เชี่ยวชาญในภาคอุตสาหกรรม เกี่ยวกับคุณภาพการผลิตของเครื่องบินรุ่นที่ขายดีที่สุดของโบอิ้ง
คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบของสหรัฐฯ สั่งห้ามบินเครื่องบิน 737 แม็กซ์ 9 จำนวน 171 ลำ หลังจากผนังหน้าต่างด้านหนึ่งของเที่ยวบินหนึ่งของสายการบินอะแลสกา แอร์ไลน์ส เกิดหลุดกลางอากาศ ไม่นานหลังเทกออฟขึ้นจากเมืองพอร์ทแลนด์ รัฐออริกอน บีบให้นักบินต้องลงจอดฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัย
ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส หนึ่งใน 2 สายการบินสหรัฐฯ ที่ใช้เครื่องบินโบอิ้งรุ่นนี้ เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบของพวกเขาพบปัญหาสลักเกลียวหลวม ที่จำเป็นต้องขันให้แน่นบนผนังหลายจุด การตรวจพบครั้งนี้เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับกระบวนการผลิตเครื่องบินแม็กซ์ 9 ทั้ง 171 ลำ ที่ถูกสั่งห้ามบิน
แหล่งข่าวบอกกับรอยเตอร์ว่า เวลานี้ยูไนเต็ด พบเครื่องบินที่มีปัญหาสลักเกลียวหลวมแล้ว 10 ลำ และตัวเลขอาจเพิ่มขึ้นกว่านี้
ผู้อยู่วงในอุตสาหกรรมหลายคน บอกว่าสายการบินต่างๆ เริ่มรับฟังเสียงความกังวลของพวกผู้โดยสารเกี่ยวกับความปลอดภัยของเครื่องบิน แม้แม็กซ์ 9 ที่กำลังเป็นประเด็นถูกใช้งานโดยสายการบินไม่กี่แห่งก็ตาม ทั้งนี้ความกังวลที่เรื้อรังใดๆ อาจก่อแรงกดดันเพิ่มเติมแก่โบอิ้ง ซึ่งประสบกับประเด็นปัญหาด้านการผลิตต่างๆ นับตั้งแต่ถูกสั่งห้ามบินเครื่องบินในตระกูล 737 แม็กซ์ เมื่อช่วงต้นปี 2019
"มันต่างจากเดิมอย่างมาก เพราะตอนนี้มันคือปัญหาระดับฝูงบิน มันคือปัญหาด้านการควบคุมคุณภาพ" จอห์น ค็อกซ์ ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยด้านการบินของสหรัฐฯ กล่าว
พวกคณะสืบสวนระบุในวันอาทิตย์ (7 ม.ค.) ว่ายังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุปถึงสาเหตุ แต่หุ้นของโบอิ้งร่วงลงหนักกว่า 8% ในวันจันทร์ (8 ม.ค.)
สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) และโบอิ้งปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวสลักเกลียวหลวม
ถ้อยแถลงของยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส บอกว่า "นับตั้งแต่เราทำการตรวจสอบเบื้องต้นในวันเสาร์ เราพบตัวอย่างต่างๆ ที่ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับประเด็นการติดตั้งใน door plug (ประตูที่ออกแบบมาเพื่อปิดผนึกโดยใช้ประโยชน์จากแรงดันที่แตกต่างกันทั้งสองด้าน) และสลักเกลียวมีความจำเป็นเพื่อให้มีความแน่นมากยิ่งขึ้น"
เอฟเอเอ เมื่อวันจันทร์ (8 ม.ค.) ให้ไฟเขียวสายการบินตรวจสอบเครื่องบินทั้งหลายที่ถูกสั่งงดขึ้นบิน โดยใช้กระบวนการที่ผ่านการอนุมัติจากโบอิ้ง อย่างไรก็ตาม ทางอะแลสกา แอร์ไลน์ส เผยว่า พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติเพิ่มเติมจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบสหรัฐฯ ก่อนเริ่มทำการสืบสวน ดังนั้นจึงยังไม่มีโอกาสตรวจสอบประเด็นสลักเกลียวหลวมเพิ่มเติม
คาดหมายว่าการตรวจสอบสืบสวนคงใช้เวลานานหลายวัน ส่งผลให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก แต่แหล่งข่าวระดับสูงรายหนึ่งในภาคอุตสาหกรรม บอกว่า กรอบเวลาเริ่มไม่สามารถคาดหมายมากขึ้นเรื่อยๆ และเอฟเอเอ จำเป็นต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง
ผนังของเครื่องบินถูกเก็บกู้ได้โดยครูของโรงเรียนแห่งหนึ่งของพอร์ทแลนด์เมื่อวันอาทิตย์ (7 ม.ค.) ซึ่งพบมันในสวนหลังบ้าน จากการเปิดเผยของ เจนนิเฟอร์ โฮเมนดี หัวหน้าคณะกรรมการบริหารความปลอดภัยด้านคมนาคมแห่งชาติของสหรัฐฯ พร้อมบอกว่าบันทึกเสียงสนทนาในห้องนักบินไม่มีข้อมูลใดๆ เนื่องจากข้อมูลได้ถูกบันทึกทับ (overwritten) ไปแล้ว
โฮเมนดี เรียกร้องอีกครั้ง ขอคณะกรรมการควบคุมกฎระเบียบให้อำนาจปรับปรุงแก้ไขกฎในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มระยะเวลาการบันทึกทับข้อมูลจากเดิมอยู่ที่ 2 ชั่วโมง เป็น 25 ชั่วโมง
ในบรรดาเครื่องบิน 171 ลำที่อยู่ภายใต้คำสั่งห้ามบิน มีอย่ 144 ลำที่ปฏิบัติการในสหรัฐฯ ขณะที่สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส โคปา แอร์ไลน์ส ของปานามา และแอโรเม็กซิโก ก็งดบินเครื่องบินรุ่นนี้เช่นกัน ขณะที่อินโดนีเซียบอกว่าพวกเขาระงับใช้เครื่องบิน 3 ลำ แม้ไม่อยู่ในคำสั่งห้ามบินก็ตาม
(ที่มา : รอยเตอร์)