ช็อก! นักบินสายการบินสหรัฐฯ พยายามดับเครื่องยนต์กลางอากาศ จงใจสังหารหมู่ยกลำ

เครื่องบินลำหนึ่งของสายการบินอะแลสกา แอร์ไลน์ส เที่ยวมุ่งหน้าสู่ซานฟรานซิสโก จำเป็นต้องเบี่ยงไปยังเมืองพอร์ทแลนด์ รัฐออริกอน หลังจากนักบินซึ่งไม่ได้อยู่ในหน้าที่ แต่อยู่ภายในห้องควบคุมพยายามดับเครื่องยนต์กลางอากาศ จนหวิดเกิดโศกนาฏกรรมเลวร้าย

โจเซฟ เดวิด เอเมอร์สัน วัย 44 ปี ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าและก่ออันตรายแก่เครื่องบิน รวมทั้งสิ้น 83 กระทง จากข้อมูลของสำนักงานนายอำเภอมัลท์โนมาห์ เคาน์ตี หลังเขาถูกตำรวจพอร์ทแลนด์จับกุมตัว

สายการบินเปิดเผยว่า เที่ยวบิน 2059 ของอะแลสกา แอร์ไลน์ส ที่ปฏิบัติการโดยสายการบินโอริซอน แอร์ จากเมืองเอเวอเรตต์ รัฐวอชิงตัน ต้องเบี่ยงเส้นทางไปยังพอร์ทแลนด์ในวันอาทิตย์ (22 ต.ค.) หลังได้รับรายงานเกี่ยวกับภัยคุกคามที่น่าเชื่อถือ

"ผมขอให้พวกคุณเตรียมตัวไว้ เราเพิ่งมีคนคนหนึ่งที่พยายามดับเครื่องยนต์จากห้องนักบิน" นักบินของโอริซอน แอร์ ให้ข้อมูลกับศูนย์ควบคุมการบินขององค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) ในคลิปเสียงที่โพสต์โดย LiveATC "ฟังดูเหมือนว่า เขาไม่ได้ก่อปัญหาใดๆ ข้างหลังผม ผมคิดว่าเขาสงบลงแล้ว เราต้องการเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายทันทีที่เราลงแตะพื้นและเข้าจอด"

สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างอิงบันทึกฉบับหนึ่งที่พวกเขาพบเห็น รายงานว่าองค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ ได้รับแจ้งว่า นักบินซึ่งไม่ได้เป็นผู้ทำการบิน พยายามหาทางดับเครื่องยนต์ของเครื่องบินเอ็มบราเออร์ 175 ด้วยการเปิดใช้งานระบบดับเพลิงอัตโนมัติ แต่พวกลูกเรือสามารถทำให้บุคคลรายนี้สงบลงและพาตัวเขาออกจากห้องนักบิน โดยที่เครื่องยนต์ยังคงติดอยู่ไม่ได้ดับใดๆ

ตำรวจพอร์ทออฟพอร์ทแลนด์ ขึ้นไปบนเครื่องบินทันทีหลังลงจอด และพาตัวผู้ต้องสงสัยไปคุมขังโดยปราศจากเหตุการณ์ร้ายแรง และเปิดเผยว่าเวลานี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน

จากฐานข้อมูลนักบินขององค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ พบว่า เอเมอร์สัน ถูกจัดอยู่ในนักบินที่ผ่านการรับรอง ที่ได้รับการรับรองทางการแพทย์เมื่อเดือนที่แล้ว ในขณะที่นักบินจะเป็นผู้รายงานด้วยตัวเอง ในกรณีที่มีปัญหาทางสุขภาพจิตใดๆ

สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) เปิดเผยว่าพวกเขาอยู่ระหว่างสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรับประกันว่าสาธารณชนสามารถเดินทางไปตามปกติ โดยไม่มีภัยคุกตามที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้อีกแล้ว

องค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ แจ้งกับสายการบินต่างๆ ในประกาศอีกฉบับในวันจันทร์ (23 ต.ค.) ว่าเหตุการณ์นี้ไม่เกี่ยวข้อง หรือได้รับอิทธิพลหรือก่อตัวขึ้นมาจากเหตุการณ์ต่างๆ ในปัจจุบันของโลก "แต่มันเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีเสมอ ในการคงไว้ซึ่งการตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา" อ้างอิงถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลาง

ทั้งนี้ เป็นแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐานทั่วไป ที่นักบินซึ่งไม่ได้อยู่ในหน้าที่จะเข้าไปนั่งในห้องนักบิน บริเวณเก้าอี้ด้านหลังที่นั่งของกัปตันและนักบินผู้ช่วย เพื่อเดินทางกลับบ้าน หรือไปรับงานที่ได้รับมอบหมายสำหรับควบคุมเที่ยวบินอื่น
.
สายการบินอะแลสกา แอร์ไลน์ บอกว่าผู้โดยสารทุกคนปลอดภัยดี และสามารถเดินทางต่อไปได้ด้วยเที่ยวบินหนึ่งหลังจากนั้น

(ที่มา : รอยเตอร์)