ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในวันขึ้นปีใหม่ในญี่ปุ่น แตะระดับ 110 คนแล้วในวันเสาร์ (6 ม.ค.) ในขณะที่การค้นหาผู้รอดชีวิตในซากปรักหักพังของอาคารต่างๆ ที่พังถล่มเข้าสู่วันที่ 6 แล้ว ท่ามกลางคำเตือนว่ามีโอกาสเกิดหิมะตกหนักในแถบพื้นที่ประสบภัยในช่วง 1-2 วันข้างหน้า
แผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.6 สั่นสะเทือนชายฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น ทำลายโครงสร้างพื้นฐาน และตัดขาดไฟฟ้าที่จ่ายป้อนบ้านเรือนประชาชน 22,000 หลังคาเรือนในภูมิภาคโฮคุริคุ ขณะที่ฝนที่ตกลงมา ก็บั่นทอนความพยายามขุดคุ้ยซากปรักหักพังเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต ท่ามกลางผู้อพยพที่รอคอยความช่วยเหลือมากกว่า 30,000 คน
ข้อมูลที่เผยแรพ่บนเว็บไซต์รัฐบาล จังหวัดอิชิกาวะ ยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิต ณ เวลา 16.00 น.(ตรงกับเมืองไทย 14.00 น.) ของวันเสาร์ (6 ม.ค.) อยู่ที่ 110 ราย เพิ่มขึ้นจาก 94 คน หนึ่งวันก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ยังมีผู้คนอีกกว่า 200 รายที่ยังคงสูญหาย ตามหลังเหตุแผ่นดินไหวครั้งเข่นฆ่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในรอบเกือบ 8 ปี
ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นยอดผู้เสียชีวิตสูงที่สุด นับตั้งแต่มีผู้เสียชีวิต 276 ราย ในเหตุแผ่นดินไหว ในจังหวัดคุมาโมโตะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมื่อปี 2016
นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลเร่งรัดความพยายามฉุกเฉินในการกู้คืนถนนสายหลักต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว เพื่อที่จะสามารถยกระดับปฏิบัติการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์
กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น เตรียมเสริมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยอีก 400 นาย เป็น 5,400 นาย ในขณะที่ปัญหาด้านการสัญจรบนท้องถนนเป็นหนึ่งในอุปสรรคต่างๆ ที่เตะถ่วงความพยายามส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัย
พวกผู้เห็นเหตุการณ์เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า พบเห็นโคลนถล่ม ก้อนหิน และรอยร้าวบนท้องถนน ซึ่งตัดขาดชุมนุมห่างไกลหลายสิบแห่งในจังหวัดอิชิกาวะ ส่วนในเขตฟูคามิมาชิ ในเมืองวาจิามะ เฮลิคอปเตอร์ของกองกำลังป้องกันตนเองได้นำพาชาวบ้านอย่างน้อย 14 คน ไปยังพื้นที่ปลอดภัย
ในขณะที่พวกผู้ไร้ที่อยู่อาศัย เข้าไปแออัดกันในศูนย์อพยพของเมืองวาติมะ เพื่อขอรับอาหาร น้ำ และปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ แต่ยังมีพวกชาวบ้านบางส่วนเลือกที่จะหลับนอนในรถยนต์
เมื่อวันที่ 1 มกราคม บ้านไม้ของนายยูทากะ โอบาบาชิ วัย 75 ปี และอาคิโกะ ภรรยาวัย 73 ปี พังเสียหายยับเยิน แต่หลังจากไปหลับนอนที่จุดอพยพชั่วคราว ในศูนย์พักพิงของชุมนุม ได้เพียง1 คืน ทั้งคู่ตัดสินใจกลับบ้านและเลือกหลับนอนในยานพาหนะเล็กๆ ของพวกเขา "สายตาของผู้คนทำให้เราประหม่า ผมไม่อยากใช้ชีวิตโดยมีผู้คนจำนวนมากรอบๆ ตัว"
เจ้าหน้าที่ด้านพยากรณ์อากาศเตือนว่ามีโอกาสที่จะเกิดหิมะตกหนักในภูมิภาคแถบนี้ ในช่วงค่ำของวันอาทิตย์ (7 ธ.ค.) จนถึงเช้าวันจันทร์ (8 ธ.ค.) ซึ่งอาจก่อให้เกิดหายนะรองตามมา อย่างเช่นดินถล่ม
แรงสั่นสะเทือนของอาฟเตอร์ช็อกยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง สามารถวัดความรุนแรงได้ระดับ 5 ในเมืองอานามิซุ ในตอนเช้าวันเสาร์ (6 ธ.ค.)
อายูโกะ โนโตะ เลือกที่จะหลับนอนในรถยนต์พร้อมกับสมาชิกในครอบครัวเช่นกัน แม้ว่าบ้านของพวกเขานั้นสามารถยืนหยัดรับมือกับแผ่นดินไหวได้ เนื่องจากหวั่นกลัวว่าจะมีแผ่นดินไหวรุนแรงตามมาอีก และเป็นไปได้ว่าจะเกิดคลื่นสึนามิ
"อาฟเตอร์ช็อกยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง" โนโตะ วัย 47 ปีกล่าว "เราเลือกรถยนต์แทนที่จะหลับนอนในบ้าน เพื่อที่เราจะสามารถหลบหนีได้ทันทีในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่อีกหน" เมื่อถามว่าพวกเขาจะเลือกหลับนอนในรถยนต์ไปอีกนานแค่ไหน โนโตะตอบว่า "ฉันไม่รู้คำตอบในเรื่องนี้"
(ที่มา : รอยเตอร์)
