กรุงปักกิ่งของจีนเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเข้าขั้นติดลบในเดือน ธ.ค. ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1951 หลังคลื่นอากาศที่หนาวจัดจากอาร์กติกทำให้หลายพื้นที่ของจีนมีหิมะตกหนัก และอุณหภูมิลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์
ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเริ่มเผชิญอากาศหนาวทุบสถิติตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในบางพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิดำดิ่งลงไปถึง -40 องศาเซลเซียส
เมื่อวันอาทิตย์ (24 ธ.ค.) สำนักงานติดตามสภาพอากาศของกรุงปักกิ่งได้จดบันทึกระยะเวลาที่อุณหภูมิลดต่ำว่าจุดเยือกแข็งยาวนานกว่า 300 ชั่วโมงตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. ซึ่งถือว่านานเป็นประวัติการณ์สำหรับเดือน ธ.ค. ตั้งแต่เริ่มมีการจดบันทึกสถิติในปี 1951
หนังสือพิมพ์ Beijing Daily รายงานว่า เมืองหลวงของจีนยังมีอุณหภูมิต่ำกว่า -10 องศาเซลเซียสต่อเนื่องนานถึง 9 วัน ภายในช่วงเวลาดังกล่าว
หลายเมืองในมณฑลเหอหนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของปักกิ่งยังเผชิญปัญหาขาดแคลนพลังงานความร้อนสำหรับทำความอบอุ่นในช่วงที่อากาศหนาวจัด โดยมีรายงานว่าโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนที่เมืองเจียวจั้ว (Jiaozuo) เริ่มผลิตความร้อนได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของครัวเรือน
สื่อทางการจีนรายงานวานนี้ (24) ว่า บริษัท Jiaozuo Wanfang Aluminum Manufacturing ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการทำความร้อนรายใหญ่ของเมืองเจียวจั้ว ระบุว่าหม้อต้มทำความร้อน (heating boilers) เสียใช้การไม่ได้หลายตัว ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างแก้ไข และคาดว่าจะกลับมาผลิตพลังงานความร้อนได้ตามปกติภายในวันที่ 26 ธ.ค.
ขณะเดียวกัน ทางการเมืองผูหยาง (Puyang) และผิงติ่งซาน (Pingdingshan) ในมณฑลเหอหนานเริ่มงดจ่ายความร้อนให้แก่หน่วยงานรัฐเพื่อกระจายให้แก่ภาคครัวเรือนก่อนเป็นอันดับแรก
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีนรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันอาทิตย์ (24) หลายเมืองทางตอนกลางและตะวันออกของจีนเริ่มอบอุ่นขึ้นบ้างเล็กน้อย โดยบางแห่งอุณหภูมิเริ่มกลับมาสูงกว่า 10 องศาเซลเซียส
ที่มา: รอยเตอร์