รัสเซียเรียกประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันเสาร์ (30 ธ.ค.) กล่าวหายูเครนเล็งเป้าหมายเล่นงานพลเมืองของเบลโกรอด ด้วยขีปนาวุธและจรวด สังหารผู้คนอย่างน้อย 14 ราย และบาดเจ็บหลายสิบคน พร้อมประกาศจะไม่ปล่อยให้การโจมตีครั้งนี้ลอยนวลโดยไม่ถูกลงโทษ
การโจมตีนี้มีขึ้น 1 วัน หลังจากยูเครนเปิดเผยว่าห่าขีปนาวุธของรัสเซียได้โจมตีเมืองต่างๆ ของพวกเขา เข่นฆ่าผู้คนอย่างน้อย 39 รายและบาดเจ็บหลายสิบคน และเจ้าหน้าที่ยูเครนระบุว่าการโจมตีรอบใหม่ในวันเสาร์ (30 ธ.ค.) ยังทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมในเมืองคาร์คิฟ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
เบลโกรอด ตั้งอยู่ห่างจากชายแดนติดกับรัสเซียแค่ราว 30 กิโลเมตร และถุกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสิ่งที่มอสโกเรียกว่าเป็นการยิงปืนใหญ่ใส่แบบไม่เลือกหน้าโดยฝีมือของกองกำลังยูเครน
รัสเซียระบุว่าขีปนาวุธ Vilkha จำนวน 2 ลูกและจรวดที่ผลิตโดยสาธารณรัฐเช็กถูกใช้ในการโจมตี ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะประชุมกันตอน 16.00 น.วันเสาร์ (30 ธ.ค.) ตามเวลานิวยอร์ก (ตรงกับเมืองไทย 04.00 น.วันอาทิตย์) เพื่อหารือเกี่ยวกับการโจมตีในเบลโกรอด จากการเปิดเผยของคณะผู้แทนรัสเซียประจำสหประชาชาติ
ทั้งประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน มีกำหนดกล่าวในวันอาทิตย์ (31 ธ.ค.) ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ในขณะที่ความขัดแย้งใกล้วาระครบรอบ 2 ปีในเดือนกุมภาพันธ์
กระทรวงฉุกเฉินของรัสเซียเปิดเผยว่าในจำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุด แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 12 ราย และเด็ก 2 คน "นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 108 คน ในนั้นเป็นเด็ก 15 ราย"
เครมลินระบุว่า ปูตินได้รับฟังรายงานสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แล้ว ส่วนกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเตือนว่าการโจมตีจะไม่ลอยนวลโดยไม่ถูกลงโทษ
ทางกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งคร่ำครวญบ่อยครั้งต่อกรณีที่ตะวันตกจัดหาอาวุธแก่ยูเครน กล่าวหาสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรยั่วยุรัฐบาลเคียฟให้กระทำการก่อการร้าย
อีกด้านหนึ่งในยูเครน หน่วยฉุกเฉินยังคงค้นหาตามซากปรักหักพังในวันเสาร์ (30 ธ.ค.) หนึ่งวันหลังจากการโจมตีของรัสเซีย สังหารผู้คนไปอย่างน้อย 39 ราย ซึ่งถือเป็นการโจมตีที่หนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นของความขัดแย้ง
กองทัพยูเครนประเมินว่ารัสเซียได้ยิงขีปนาวุธและโดรน 158 เที่ยวใส่ยูเครน แต่ในนั้น 114 เที่ยวถูกทำลาย "เราอยู่ระหว่างประเมินผลกระทบของการโจมตีของรัสเซียเมื่อวานนี้" เซเลนสกีระบุในวันเสาร์ (30 ธ.ค.)
วิตาลี คลิตช์โก นายกรัฐมนตรีกรุงเคียฟ ประกาศให้วันที่ 1 มกราคม เป็นวันแห่งการไว้ทุกข์ในกรุงเคียฟ บริเวณที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 3 ราย จากการโจมตีของรัสเซียทั่วยูเครน ในวันเสาร์ (30 ธ.ค.)
กองทัพรัสเซียระบุว่า พวกเขาได้ทำการโจมตีแบบกลุ่ม 50 เที่ยว และโจมตีขนานใหญ่อีก 1 รอบ ใส่ที่ตั้งทางทหารในยูเครนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมคุยโวว่าการโจมตีโดนทุกเป้าหมายที่กำหนดไว้
อิกอร์ คลีเมนโก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยูเครน กล่าวว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 7 รายในเมืองคาร์คิฟ ในนั้นรวมถึงผู้สื่อข่าวชาวอังกฤษ
สหประชาชาติประณามการโจมตีเหล่านี้ และเรียกร้องให้หยุดโจมตีในทันที
โปแลนด์รายงานว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งของรัสเซียพุ่งผ่านน่านฟ้าของพวกเขาช่วงสั้นๆ ระหว่างการโจมตีในวันศุกร์ (29 ธ.ค.)
หลังจากพูดคุยกับประธานาธิบดี อันด์แชย์ ดูดา แห่งโปแลนด์ ทางเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต กล่าวว่า พันธมิตรยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียวกันกับโปแลนด์ พร้อมระบุว่านาโตยังคงอยู่ในความระแวดระวัง
ท่ามกลางการโจมตีจากรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ยูเครนเรียกร้องพันธมิตรตะวันตกให้คงไว้ซึ่งการสนับสนุนทางทหาร "เคียฟจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมและเข้มแข็งยิ่งขึ้นเพื่อหยุดก่อการร้ายนี้" จากคำกล่าวของ อันดรีย์ เยอร์มัค ผู้ช่วยประธานาธิบดียูเครน
(ที่มา : เอเอฟพี)