ราคาน้ำมันฟื้นตัวราว 1% ในวันพุธ(13ธ.ค.) จากระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน จากข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯและความกังวลในตะวันออกกลาง ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกและทองคำปรับขึ้น หลังเฟดคงอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณว่านโยบายการเงินในช่วง 2 ปีหลังใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ ปิดที่ 69.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความปลอดภัยของอุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง ตามหลังเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งที่กำลังล่องอยู่ในทะเลแดง นอกชายฝั่งเยเมน ถูกยิงเข้าใส่โดยกลุ่มมือปืนที่ใช้เรือเร็วเป็นยานพาหนะ และเล็งเป้าเล่นงานด้วยจรวด ในเหตุการณ์ล่าสุดที่คุกคามเส้นทางการขนส่งสินค้า หลังจากกบฏฮูตีในเยเมน เคยเตือนเรือต่างๆว่าอย่าได้มุ่งหน้าสู่อิสราเอล
อีกด้านหนึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ(อีไอเอ) รายงานว่าคลังน้ำมันสำรองของประเทศ ลดลง 4.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 650,000 บาร์เรล อันเนื่องจากการนำเข้าลดลง
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(13ธ.ค.) ปิดบวก หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) คงอัตราดอกเบี้ย และส่งสัญญาณว่านโยบายการเงินที่ใช้มาตลอดช่วง 2 ปีหลังได้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว และมีความเป็นไปได้ว่จะมีการปรับลดดอกเบี้ยในปี 2024
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 512.30 จุด (1.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 37,090.24 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 63.39 จุด (1.37 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,707.09 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 200.57 จุด (1.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,733.96 จุด
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันพุธ(13ธ.ค.) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 22 ปี
การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2022 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%
ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปี 2024 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 0.75% จากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในการประชุมเดือนก.ย.
ถ้อยแถลงหลังการประชุม เฟดได้ส่งสัญญาณยุติวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่า "คณะกรรมการเฟดจะทำการพิจารณาปัจจัยหลายประการสำหรับการคุมเข้มนโยบายการเงินใดๆที่จะมีขึ้นอีก ซึ่งเป็นการใช้ถ้อยคำที่ไม่เคยมีมาก่อนในแถลงการณ์ก่อนหน้านี้
ตามหลังถ้อยแถลงของเฟด พวกนักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสถึง 90% ที่ธนาคารกลางแห่งนี้จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้่ยในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นจากระดับ 80% ก่อนหน้าคำแถลง
ความเคลื่อนไหวส่งสัญญาณเตรียมยุติวงจรการปรับขึ้นดอกเบี้ยและบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้า ช่วยดันราคาทองคำในวันพุธ(13ธ.ค) ปิดบวกมากกว่า 1% โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 4.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,997.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์)