ราคาน้ำมันขยับขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์ (11 ธ.ค.) ยังอยู่ใต้อิทธิพลเกี่ยวกับอุปทานล้นตลาดและอุปสงค์อ่อนแอในปีหน้า ส่วนวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบๆ จับตาการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั้งหลาย ขณะที่ทองคำปรับลดแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ ปิดที่ 71.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ ปิดที่ 76.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ก่อนหน้านี้ตลาดน้ำมันพุ่งขึ้นถึงกว่า 2% ในวันศุกร์ (8 ธ.ค.) แต่รวมตลอดทั้งสัปดาห์ยังปรับลด 7 สัปดาห์ติดต่อกัน ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018 ท่ามกลางความกังวลที่ลากยาวเกี่ยวกับอุปทานล้นตลาด
แม้ราคาน้ำมันฟื้นตัวในวันจันทร์ (11 ธ.ค.) แต่ความกังวลเกี่ยวกับอุปทานล้นตลาดยังคงไม่จางหายไป หลังผิดหวังต่อมาตรการปรับลดกำลังผลิตของโอเปกและพันธมิตรอย่างรัสเซีย หรือที่เรียกว่าโอเปกพลัส ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอในจีนได้ซ้ำเติมความกังวลด้านอุปสงค์อีกทางหนึ่ง
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (11 ธ.ค.) ปิดในกรอบแคบๆ ในช่วงต้นสัปดาห์แห่งการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางประเทศต่างๆ ซึ่งได้รับการจับตามองจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 157.06 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 36,404.93 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 18.07 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,622.44 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 28.51 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,432.49 จุด
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีกำหนดอัปเดตนโยบายอัตราดอกเบี้ยในวันพุธ (13 ธ.ค.) จากนั้นจะตามด้วยการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางอังกฤษในวันพฤหัสบดี (14 ธ.ค.)
ด้วยทั้ง 3 ธนาคารกลางถูกคาดหมายว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย หลังจากก่อนหน้านี้ได้ทำการปรับขึ้นมาแล้วหลายครั้งเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ นักลงทุนจะตรึกตรองถ้อยแถลงจากธนาคารกลางเหล่านี้ เพื่อหาความเป็นไปได้ว่าเมื่อไหร่ที่พวกเขาจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางสัญญาณเงินเฟ้อชะลอตัวลง
ส่วนราคาทองคำขยับในวันจันทร์ (11 ธ.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 20.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,993.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)