ราคาน้ำมันขยับขึ้นมากกว่า 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันพฤหัสบดี (2 พ.ย.) หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยตามเดิมและเปิดประตูสำหรับกระชับโนบายการเงิน ปัจจัยนี้ดันวอลล์สตรีทปิดบวกแรง ส่วนทองคำปรับขึ้นจากการอ่อนค่าของดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 2.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 2.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 86.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดประชุมกันเป็นเวลา 2 วันเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อสรุปว่าสภาะทางการเงินตึงตัวเพียงพอที่จะควบคุมเงินเฟ้อหรือไม่ หรือเศรษฐกิจยังคงร้อนแรงเกินคาดหมายและอาจจำเป็นต้องชะลอความร้อนแรงเพิ่มเติม ซึ่งท้ายที่สุดแล้วในวันพุธ (1 พ.ย.) เฟดก็ตัดสินในคงอัตราดอกเบี้ยไว้ 5.25-5.50% ตามเดิม
นักลงทุนในตลาดน้ำมันจับตาการตัดสินใจของเฟดอย่างใกล้ชิด กังวลว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกมากเกินไปอาจฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจและกระทบต่ออุปสงค์ทางพลังงาน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (2 พ.ย.) ปิดบวกเกือบ 2% ในความหวังว่าเฟดใกล้ยุติความเคลื่อนไหวปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ในขณะที่รายงานผลประกอบการรายไตรมาสในแง่บวกของหลายบริษัท ช่วยเพิ่มบรรยากาศแห่งความเชื่อมั่นเช่นกัน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 564.50 จุด (1.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,839.08 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 79.92 จุด (1.89 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,317.78 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 232.72 จุด (1.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,294.19 จุด
หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินเฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม ตามความคาดหมายในวันพุธ (1 พ.ย.) เจอร์โรม พาวเวล ประธานระบุในถ้อยแถลง เปิดประตูสำหรับการกระชับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม และยอมรับว่าการดีดตัวขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เร็วๆ นี้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ความคิดเห็นดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการแย้มว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจเสร็จสิ้นการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว และปัจจัยนี้เองที่ฉุดผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ขยับลงและดันวอลล์สตรีทพุ่งแรง
การอ่อนตัวลงของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และดอลลาร์ ผลักให้ราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (2 พ.ย.) ปิดในแดนบวก โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 6.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,993.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)
