ราคาน้ำมันร่วงลงมากกว่า 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันพฤหัสบดี (26 ต.ค.) หลังความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งในวงกว้างในตะวันออกกลางผ่อนคลายลงไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับนักรบฮามาส ยังคงถูกจับตาอย่างใกล้ชิด ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบ และดันทองคำปรับขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 2.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 83.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 2.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 87.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันได้แรงหนุนเมื่อเร็วๆ นี้ จากความกังวลว่าสถานการณ์ความขัดแย้งที่ลุกลามบานปลายระหว่างอิสราเอลกับฮามาส กลุ่มนักรบปาเลสไตน์ อาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบโลก ท่ามกลางความเป็นไปได้ที่อิหร่านและพันธมิตรของพวกเขาในภูมิภาคจะร่วมวงด้วย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ เรียกร้องให้อิสราเอลชะลอเปิดปฏิบัติการบุกฉนวนกาซาเต็มรูปแบบ ในขณะที่ฉนวนแห่งนี้อยู่ในภาวะโซซัดโซเซมานานเกือบ 3 สัปดาห์ จากการถูกอิสราเอลโจมตีทางอากาศไม่หยุดหย่อน แก้แค้นที่พวกนักรบฮามาสที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน บุกจู่โจมสังหารหมู่ผู้คนในทางภาคใต้ของอิสราเอล
กระนั้นความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงผลักนักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (26 ต.ค.) ขยับขึ้น โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 2.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,997.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันพฤหัสบดี (26 ต.ค.) แม้ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่ง นักลงทุนทบทวนรายงานผลประกอบการบริษัทที่ผสมผสาน และจับตาวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง
ดาวโจนส์ ลดลง 251.63 จุด (0.76 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 32,784.30 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 49.54 จุด (1.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,137.23 จุด แนสแดค ลดลง 225.62 จุด (1.76 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,595.61 จุด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 4.9% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.7% ถือเป็นอัตราที่ร้อนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 หลังจากมีการขยายตัว 2.0% และ 2.1% ในไตรมาส 1 และ 2 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ตลาดเพิกเฉยต่อรายงานดังกล่าว เนื่องจากมองมันในฐานะเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ฟื้นตัวจากภาวะชะลอตัว
หุ้นของบริษัท เมตา แพลตฟอร์ม อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม (IG) ดิ่งลงกว่า 2% ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับรายได้จากการโฆษณา และการขาดทุนในธุรกิจเมตาเวิร์ส แม้บริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้โดยรวมสูงกว่าคาดในไตรมาส 3
(ที่มา : รอยเตอร์)
