ราคาน้ำมันลงต่อเนื่อง 3 วันติดในวันอังคาร (24 ต.ค.) หลังข้อมูลเศรษฐกิจชะลอตัวจากเยอรมนี ยูโรโซน และสหราชอาณาจักร กัดเซาะแนวโน้มอุปสงค์พลังงาน ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกได้แรงหนุนจากผลประกอบการบริษัท ขณะที่ทองคำปรับลด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 83.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.76 ดอลลาร์ ปิดที่ 88.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กิจกรรมธุรกิจในยูโรโซนเข้าสู่ทิศทางขาลงอย่างน่าประหลาดใจในเดือนนี้ บ่งชี้ว่าทางกลุ่มอาจถลำลงสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ข้อมูลเศรษฐกิจในเยอรมนี บ่งชี้ว่าพวกเขากำลังเผชิญกับภาวะถดถอยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนกิจธรรมภาคธุรกิจของสหราชอาณาจักรหดตัวต่ออีกเดือน เน้นย้ำถึงความเสี่ยง ก่อนหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษจะตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (24 ต.ค.) ปิดในแดนบวก จากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของหลายบริษัท แม้ในขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 204.97 จุด (0.62 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,141.38 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 30.64 จุด (0.73 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,247.68 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 121.55 จุด (0.93 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,139.88 จุด
โคโค-โคลา เวไรซอน และ 3เอ็ม เป็นหนึ่งในบรรดาบริษัทที่ได้แรงขับเคลื่อนจากรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้เคลื่อนไหวปิดในแดนบวกถ้วนหน้า "มีรายงานผลประกอบการมากมายที่เผยแพร่ออกมาในวันนี้ และบริษัทยักษ์ใหญ่ส่วนใหญ่ มีผลดำเนินการเกินคาดหมาย" ปีเตอร์ คาร์ดิลโล จากสปาร์ตาน แคปิตอล ระบุ
"ถ้ามันยังคงเป็นไปเช่นนี้ มีโอกาสดีที่รายงานผลประกอบการในแง่ดีของบริษัทที่เหลือจะตามมา และมันเปิดทางให้เราปิดไตรมาส 4 อย่างสวยงาม" เขากล่าว
ความเคลื่อนไหวของวอลล์สตรีท ผลักนักลงทุนเมินสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ฉุดราคาทองคำปิดลบในวันอังคาร (24 ต.ค.) ในขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาพัฒนาการใหม่ๆ ในความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ หลังสหรัฐฯ เรียกร้องกองทัพอิสราเอลชะลอการจู่โจมทางภาคพื้นเข้าไปยังฉนวนกาซา
โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 1.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,986.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)