ราคาน้ำมันขยับลงในวันพุธ(6ธ.ค.) แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน จากข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองของสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทปิดแคบและทองคำปรับขึ้น จากสัญญาณตลาดแรงงานคลายความร้อนแรงลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 2.94 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 2.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ(อีไอเอ) พบคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ ลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 ตุลาคม แต่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 1 ล้านบาร์เรล ขณะเดียวกันในส่วนของอุปทานเบนซินที่ป้อนเข้าสู่ตลาดนั้น เพิ่มขึ้นถึง 260,000 บาร์เรลต่อวัน มากกว่าที่คาดหมายไว้
นอกจากนี้แล้วตลาดน้ำมันยังถูกฉุดจากความกังวลต่ออุปสงค์ทางพลังงานในจีน หลังมูดีส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ เมื่อวันอังคาร(5ธ.ค.) ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลจีน จาก "มีเสถียรภาพ" ลงสู่ "เชิงลบ" ตามหลังตัวเลขหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆในเศรษฐกิจใหญ่สุดอันดับ 2 ของโลกแห่งนี้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสานในวันพุธ(6ธ.ค.) ท่ามกลางสัญญาณตลาดแรงงานคลายความร้อนแรง ซึ่งเพิ่มความคาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) อาจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้า ในขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานเป็นตัวฉุดรั้งวอลล์สตรีท
ดาวโจนส์ ลดลง 70.13 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 36,054.43 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 17.84 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,549.34 จุด แนสแดค ลดลง 83.20 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,146.71 จุด
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 103,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 128,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 106,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.
ข้อมูลการจ้างงานล่าสุดนี้ ช่วยเพิ่มความคาดหมายว่าเฟดอาจใกล้สิ้นสุดวงจรการปรับขึ่้นดอกเบี้ยแล้ว และปัจจัยนี้เองที่ดันราคาทองคำในวันพุธ(6ธ.ค.) ปิดบวก โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 11.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,047.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์)
