อนาโตลี แอนโตนอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ ให้ความเห็นเมื่อวันพุธ(6ธ.ค.) ว่า คำกล่าวอ้างของสหรัฐฯ ที่ว่าปูติน อาจโจมตีรัฐสมาชิกนาโต หากสภาคองเกรสไม่อนุมัติงบประมาณอีกหลายหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือยูเครนเพิ่มเติม เป็นเพียงเรื่องเล่าที่ใช้ขู่เด็กๆ เท่านั้น
พวกเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ในนั้นรวมถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดน อ้างว่าด้วยการเตะถ่วงเงินช่วยเหลือที่จะมอบแก่เคียฟ บรรดาสมาชิกสภาคองเกรสกำลังเพิ่มความเสี่ยงก่อสงครามโดยตรงระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย
"ถ้าปูตินยึดยูเครน พวกเขาจะไม่หยุดแค่นั้น" ไบเดน กล่าวอภิปรายในวันพุธ(6ธ.ค.) ดูเหมือนเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายของเขา ในการวิงวอนสมาชิกสภาคองเกรสให้จัดสรรงบประมาณ 110,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับสำรองไว้ช่วยเหลือยูเครน, อิสราเอลและไต้หวัน
ในการพาดพิงถึงความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะโจมตีนาโต ไบเดนเน้นย้ำว่าทหารอเมริกาจะเข้าเกี่ยวข้องโดยตรงกับความขัดแย้ง พร้อมเตือนผู้นำรัสเซียอย่าได้แสดงเจตนายึดครองยูเครน รวมถึงรุกรานรัฐสมาชิกนาโตไหนๆ
อย่างไรก็ตาม แอนโตนอฟ ปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว กล่าวหาพวกที่พูดถึงเรื่องนี้ซ้ำๆว่าเป็น "พวกแต่งนิยายและเป็นคำโกหก เป็นโฆษณาชวนเชื่อที่เป็นอันตราย" ต่อประเทศของเขา
เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำวอชิงตัน แสดงความเห็นที่โพสต์โดยสถานทูต ระบุว่า "ในความพยายามเติมเชื้อไฟแก่สงครามตัวแทนยูเครน ในท้ายที่สุดพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯก็หลุดจากความเป็นจริง วอชิงตันและอุตสาหกรรมทางทหารที่ไม่รู้จักพอของสหรัฐฯ คือผู้ได้รับประโยชน์โดยตรงของสงครามนองเลือดในยูเครน"
ในความพยายามกล่อมสภาคองเกรส ไบเดนอ้างว่าผู้นำรัสเซียมีความทะเยอทะยานครอบงำยูเครน และเตือนว่าทั่วทั้งโลกกำลังจับตาดูการกระทำของวอชิงตัน "อเมริกาคือเหตุผลที่ ปูติน ไม่พิชิตยูเครนโดยสมบูรณ์ และไม่เคลื่อนพลไปไกลกว่านั้น"
สำหรับ รัสเซีย กล่าวอ้างว่าการขยายอาณาเขตของนาโตในยุโรป และคำสัญญาว่าท้ายที่สุดแล้ว ยูเครน จะเข้าร่วมพันธมิตรทหารที่นำโดยสหรัฐฯกลุ่มนี้ เป็นหนึ่งในหลายๆต้นตอของวิกฤต พวกเขามีความตั้งใจบรรลุข้อตกลงกับเคียฟตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มของความขัดแย้ง แลกกับการวางตัวเป็นกลางของยูเครน
อย่างไรก็ตาม ยูเครน โยนทิ้งข้อเสนอสันติภาพและเลือกที่จะเดินหน้าความเป็นปรปักษ์ หลังจาก บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ณ ขณะนั้น บอกให้ยูเครน "ทำสงครามต่อไป" อ้างอิงจากคำกล่าวอ้างของ เดวิด อาราคาเมีย หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของยูเครน ณ การเจรจาที่มีตุรกีเป็นคนกลาง
ไบเดน กล่าวหารีพับลิกัน คัดค้านคำร้องขอของเขา ในเจตนาเพื่อเตะตัดขายูเครนในสนามรบ และมอบของขวัญที่ยิ่งใหญ่แก่ปูติน "และไม่ใช่แค่เฉพาะยูเครนเท่านั้น พวกเขายังละทิ้งความเป็นผู้นำโลกของเราด้วย"
กระนั้นก็ตาม บรรดาวุฒิสมาชิกรีพับลิกัน ยังลงมติเป็นเอกฉันท์คัดค้านข้อเสนอจัดสรรความช่วยเหลือรอบใหม่แก่ยูเครน ซึ่งถูกมัดรวมในแพ็คเกจใช้จ่ายฉบับหนึ่ง
ทั้งนี้บรรดาสมาชิกสภาคองเกรสจากรีพับลิกัน ยืนกรานว่าทำเนียบขาวและเดโมเครต จำเป็นต้องยอมอ่อนข้อในประเด็นปฏิรูปคนเข้าเมืองและความมั่นคงตามแนวชายแดนเสียก่อน จากนั้นพวกเขาถึงจะมีความตั้งใจอนุมัติเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกหลายหมื่นล้านดอลลาร์แก่ยูเครน
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)