หัวหน้าฝ่ายสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ เมื่อวันพุธ(6ธ.ค.) แสดงความกังวลอย่างยิ่งกับคำกล่าวหาฮามาสล่วงละเมิดทางเพศระหว่างปฏิบัติการจู่โจมอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เรียกร้องรัฐยิวเปิดทางให้คณะทำงานของเขาเข้าทำการสืบสวน อย่างไรก็ตามกลับไม่มีสัญญาณตอบรับกลับมาจากอิสราเอล
"นี่คำกล่าวหาที่ร้ายแรงอย่างมาก และมันจำเป็นต้องได้รับการสืบสวน ต้องมีหลักฐานพยานอย่างแน่ชัด" โฟลเคอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวระหว่างแถลงข่าว "เหยื่อต้องได้รับความยุติธรรม" เขาเน้นย้ำ พร้อมเรียกร้องอิสราเอลซ้ำอีกรอบ สำหรับเข้าถึงการสืบสวนคำกล่วหาดังกล่าว แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากอิสราเอล
ความเห็นของเติร์ก มีขึ้นท่ามกลางคำกล่าวหาที่มีต่อสหประชาชาติ ว่าตอบสนองอย่างเฉื่อยชาต่อคำกล่าวหาที่ว่าพวกนักรบฮามาสก่อเหตุข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศอื่นๆ ระหว่างปฏิบัติการจู่โจมเล่นงานภายในอิสราเอลอย่างไม่คาดคิด เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
อิสราเอลประกาศสงครามกับฮามาส หลังนักรบกลุ่มนี้บุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไปราว 1,200 รายและจับตัวประกัน 240 คน ปฏิบัติการตอบโต้รุกรานของอิสราเอล เข่นฆ่าผู้คนไปกว่า 16,200 คนในกาซา ในนั้นราว 70% เป็นผู้หญิงและเด็ก
ฮามาส ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงต่อคำกล่าวหาข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศระหว่างปฏิบัติการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยระบุว่ามันเป็นเรื่องโกหกที่ไม่มีมูลใดๆ
อย่างไรก็ตามตำรวจอิสราเอลเผยว่าพวกเขากำลังตรวจหาหลักฐานความรุนแรงทางเพศ ไล่ตั้งแต่คำกล่าวหารุมโทรมไปจนถึงการชำแหละร่างหลังการตาย ด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าจนถึงตอนนี้พวกเขารวบรวมพยานได้มากกว่า 1,500 ปาก
เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ซึ่งเน้นย้ำคำกล่วหาว่าพวกนักรบปาเลสไตน์มีพฤติกรรมดังกล่าว ระบุในวันอังคาร(5ธ.ค.) ระหว่างพบปะกับตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวจากฮามาส ว่าเขาได้ยินคำบอกเล่าเกี่ยวกับคดีล่วงละเมิดทางเพศและข่มขืนอันโหดร้ายป่าเถื่อน
ท่ามกลางเสียงขุ่นเคืองหนักหน่วงขึ้นต่อข้อกล่าวหาดังกล่าว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เรียกร้องรัฐบาลต่างๆและองค์กรระหว่างประเทศทั้งหลาย ออกมาประณามการล่วงละเมิดทางเพศของพวกก่อการร้ายฮามาสโดยปราศจากความคลุมเครือใดๆ
จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหประชาชาติเพิ่งเริ่มต้นเผยแพร่ถ้อยแถลงต่างๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในนั้นรวมถึงคำแถลงของ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติและองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ แม้นักเคลื่อนไหวอิสราเอลส่งหนังสือถึงหน่วยงานต่างๆของสหประชาชาติ ไม่นานหลังจากเหตุโจมตี
เหล่านักเคลื่อนไหวบอกว่าการตอบสนองเพียงเล็กน้อย ทำให้พวกเขารู้สึกผิดหวังอย่างมาก และกล่าวหาประชาคมสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กำลังทรยศพวกเขา
อย่างไรก็ตามในความเห็นเมื่อวันพุธ(6ธ.ค.) เติร์ก เน้ยย้ำว่าทางอิสราเอลเองไม่ตอบสนองต่อคำขอซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเขา สำหรับการเข้าถึงการสืบสวนข้อกล่าวหาต่างๆอย่างเป็นอิสราเอล
"เราจริงจังกับข้อกล่าวหาต่างๆเหล่านี้เป็นอย่างมาก แต่คุณจำเป็นต้องเข้าสู่การตรวจสอบรายละเอียดบางอย่าง ว่ามันเป็นการไตร่ตรองไว้ก่อนหรือไม่ มันเป็นไปอย่างกว้างขวางและเป็นระบบหรือเปล่า ผมไม่อยู่ในจุดที่จะยืนยันเรื่องนี้" เติร์กระบุ
เขาเน้นย้ำว่าได้เรียกร้องมานานหลายสัปดาห์ "ขอไปทางเจ้าหน้าที่อิสราเอล สำหรับประจำการคณะทำงานของผม เข้าตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐาน สืบสวนประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีอันน่าสยดสยองเล่นงานชาวอิสราเอล ผมขอเน้นย้ำข้อเรียกร้องนี้ และผมหวังว่าพวกเขาจะได้ยินมัน แต่จนถึงตอนนี้ ผมยังไม่ได้รับการตอบสนอง"
แม้ถ้าถูกปฏิเสธการเข้าถึง เติร์กกล่าวต่อว่า "เราจะหาหนทางอื่นๆและแนวทางอื่นๆ ในการพูดคุยกับใครก็ตามที่เราจำเป็นต้องพูดคุยด้วย รูปแบบความรุนแรงทางเพศอันโหดร้ายป่าเถื่อนจำเป็นต้องการได้รับการสืบสวนอย่างละเอียด และเราจำเป็นต้องทำให้แน่ใจว่าเหยื่อต้องได้รับความยุติธรรม นั่นคือสิ่งที่เราติดค้างเหยื่อ"
(ที่มา:เอเอฟพี)