ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯในวันอังคาร(5ธ.ค.) เรียกร้องทั่วโลกประณาม ในสิ่งที่เขาเรียกว่า "ความรุนแรงทางเพศอันน่าสยดสยอง" จากฝีมือของพวกฮามาส หลังนักเคลื่อนไหวและสำนักข่าวบีบีซี กล่าวอ้างว่านักรบกลุ่มนี้มีพฤติกรรมชั่วช้ากับเหยื่อผู้หญิง ระหว่างโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
"โลกไม่อาจบ่ายหน้าหน้าหนีในสิ่งที่เกิดขึ้น" ไบเดนกล่าว ณ กิจกรรมรณรงค์หนึ่งในบอสตัน "มันขึ้นอยู่กับเราทุกคน รัฐบาล องค์กรระหว่างประเทศ ภาคประชาสังคมและภาคธุรกิจ ต้องออมาประณามควมรุนแรงทางเพศของพวกก่อการร้ายฮามาส โดยปราศจากคำพูดกำกวมใดๆ"
ไบเดน กล่าวว่ามีรายงานเกี่ยวกับกรณีที่พวกฮามาส ใช้การข่มขืนข่มขู่พวกผู้หญิงและเด็กสาวระหว่างการโจมตีเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งอิสราเอลบอกว่ามีผู้เสียชีวิต 1,200 ราย "ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา พวกผู้รอดชีวิตและผู้เห็นเหตุการณ์ของการโจมตี ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันกับความโหดร้ายป่าเถื่อนที่ไม่อาจจินตนาการได้ ในนั้นรวมถึงการข่มขืน ตัดอวัยวะและดูหมิ่นศพ" เขาระบุ "พวกก่อการร้ายฮามาสสร้างความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานแก่ผู้หญิงและเด็กมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากนั้นก็ฆาตกรรมพวกเขา มันน่าสยดสยอง"
ความเห็นของไบเดน มีขึ้นหลังจากพวกนักเคลื่อนไหวในอิสราเอล เย้ยหยันในสิ่งที่พวกเขามองว่า นานาชาติตอบสนองสนองด้วยความเงียบงันต่อความรุนแรงบนพื้นฐานทางเพศ ระหว่างเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ในขณะเดียวกันสำนักข่าวบีบีซีแห่งสหราชอาณาจักร กล่าวอ้างว่าพวกเขาพบเห็นและได้ยินหลักฐาน เกี่ยวกับการข่มขืน ความรุนแรงทางเพศและตัดอวัยวะเหยื่อผู้หญิงทำให้เหยื่อผู้หญิงกลายเป็นคนพิการ ระหว่างการโจมตีของพวกฮามาส
ในการตอบโต้การโจมตีของพวกฮามาส ทางอิสราเอลประกาศทำลายล้างกลุ่มนี้ และได้เปิดปฏิบัติการถล่มทางอากาศและรุกรานทางภาคพื้น ที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 16,200 รายในฉนวนกาซา ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
.
พวกผู้หญิงอิสราเอลและบรรดานักเคลื่อนไหวทางกฎหมาย กล่าวหากลุ่มสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศทั้งหลาย ยังคงไว้ซึ่งทฤษฏีปิดปากเงียบเกี่ยวกับคำกลาวหาข่มขืนและอาชญากรรมทางเพศอื่นๆระหว่างเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
เลขาธิการแห่งสหประชาชาติและองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ เพิ่งเผยแพร่ถ้อยแถลงเกี่ยวกับคำกล่าวหาต่างๆเหล่านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้นักเคลื่อนไหวอิสราเอลส่งหนังสือถึงหน่วยงานต่างๆของสหประชาชาติ ไม่นานหลังจากเหตุโจมตี
เหล่านักเคลื่อนไหวบอกว่าการตอบสนองเพียงเล็กน้อย ทำให้พวกเขารู้สึกผิดหวังอย่างมาก และกล่าวหาประชาคมสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กำลังทรยศพวกเขา
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯรายหนึ่งระบุในวันจันทร์(4ธ.ค.) ว่าดูเหมือนฮามาสจะเตะถ่วงการปล่อยตัวประกันผู้หญิง เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการให้ผู้หญิงเหล่านั้น ออกมาแฉต่อสาธารณชนเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ
ฮามาสในวันจันทร์(4ธ.ค.) ตอบโต้ว่า คำกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศเป็นส่วนหนึ่งในยุทธการของพวกไซออนิสต์ ซึ่งผลักดันคำโกหกและคำกล่าวหาที่ไม่มีมูล เพื่อทำลายล้างชาวปาเลสไตน์ผู้ต่อต้าน
ขณะเดียวกัน ไบเดน เรียกร้องให้ฮามาส ปล่อยตัวประกันผู้หญิงที่ยังคงควบคุมตัวไว้ในกาซา และบอกว่าการปฏิเสธปล่อยตัวประกันผู้หญิงออกมาาของพวกฮามาส ได้นำมาซึ่งการพังครืนของข้อตกลงหยุดยิงกับอิสราเอล
ไบเดน กล่าวว่า ฮามาส ปฏิเสธปล่อยตัวผู้หญิงจำนวนหนึ่ง อายุระหว่าง 20 ถึง 39 ปี ภายใต้ข้อตกลงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มนักรบปาเลสไตน์ที่มีกาตาร์เป็นคนกลาง "ผู้หญิงเหล่านี้และทุกๆคนที่ยังถูกพวกฮามาสจับเป็นตัวประกัน จำเป็นต้องคืนสู่อ้อมอกของครอบครัวในทันที เราจะไม่หยุดจนกว่าจะนำทุกๆคนกลับบ้านและมันจะเป็นกระบวนการที่ยาวนาน"
(ที่มา:เอเอฟพี/บีบีซี)