อิสราเอล-ฮามาสขยายเวลาหยุดยิงชั่วคราวออกไปอีก 2 วัน เริ่มตั้งแต่วันอังคาร (28 พ.ย.) เพื่อให้มีการปล่อยตัวประกันอิสราเอล แลกเปลี่ยนกับการปล่อยนักโทษปาเลสไตน์มากขึ้น
กาตาร์ที่เป็นตัวกลางการเจรจา และกลุ่มฮามาสยืนยันการขยายเวลาหยุดยิง ขณะที่สื่ออิสราเอลรายงานว่า รัฐบาลได้รับรายชื่อตัวประกันชุดใหม่ 10 คนที่จะได้รับการปล่อยตัวในวันอังคาร
ทั้งนี้ เส้นตายการหยุดยิงชั่วคราวที่ตกลงกันไว้ตอนแรกกำหนดสิ้นสุดลงในเวลา 5.00 น. วันอังคารตามเวลามาตรฐานกรีนิช (ตรงกับ 12.00 น.วันอังคาร เวลาเมืองไทย) โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ โดยที่เมื่อคืนวันจันทร์ (27) มีการปล่อยตัวประกันอิสราเอลชุดที่ 4 ซึ่งเป็นชุดสุดท้ายภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเดิม จำนวน 11 คนจากกาซา ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 8 คน และอิสราเอลปล่อยนักโทษปาเลสไตน์ 33 คน
อันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ยกย่องความคืบหน้านี้เป็นประกายแห่งความหวังและมนุษยธรรมท่ามกลางความมืดมิดของสงคราม
ข้อตกลงหยุดยิงมีผลในการพักการสู้รบที่เริ่มต้นขึ้นนับจากวันที่ 7 ต.ค. ที่ฮามาสบุกข้ามแดนเข้าสู่อิสราเอลและสังหารผู้คน 1,200 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน รวมทั้งจับตัวประกัน 240 คนกลับไปกาซา
อิสราเอลตอบโต้การโจมตีดังกล่าวด้วยปฏิบัติการภาคพื้นดินและอากาศต่อฉนวนกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 15,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
อย่างไรก็ตาม แม้มีการขยายข้อตกลงหยุดยิง อิสราเอลประกาศว่า ยังคงมุ่งมั่นกับเป้าหมายในการทำสงครามคือการทำลายฮามาสและปล่อยตัวประกันทั้งหมด
คืนวันจันทร์ ตัวประกัน 11 คนเดินทางถึงอิสราเอล ส่วนใหญ่เป็นบุคคลสองสัญชาติ และทั้งหมดมาจากเขตคิบบุตซ์เนียร์ออซ
หลังจากนั้นไม่นาน อิสราเอลปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์ 33 คนจากเรือนจำโอเฟอร์ โดยมีการปะทะระหว่างกองกำลังอิสราเอลกับชาวปาเลสไตน์ที่เผายางรถยนต์และขว้างปาก้อนหินบริเวณใกล้เรือนจำดังกล่าว และกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 1 คน
ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอลแล้วรวม 50 คน ที่ประกอบด้วยผู้หญิงและเด็ก รวมทั้งตัวประกันต่างชาติ 19 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานไทยภายใต้ข้อตกลงคู่ขนานแยกต่างหาก ส่วนอิสราเอลปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์ 150 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้หญิงและวัยรุ่น
ก่อนหน้านี้ อิสราเอลประกาศว่าจะขยายข้อตกลงหยุดยิงไม่มีกำหนดตราบที่ฮามาสยังคงปล่อยตัวประกันวันละ 10 คน แต่การที่เหลือตัวประกันผู้หญิงและเด็กไม่มากนักเท่ากับว่า หากมีการหยุดยิงต่อไปหลังจากวันพุธ (29 พ.ย.) อาจต้องมีการเจรจาเพื่อปล่อยตัวประกันอิสราเอลที่เป็นผู้ชายเป็นครั้งแรก
จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ แถลงว่า เพื่อขยายเวลาการหยุดยิง ฮามาสได้ตกลงปล่อยตัวประกันผู้หญิงและเด็กเพิ่มอีก 20 คน
ทางด้านอิสราเอลนั้นถือว่าข้อตกลงนี้เป็นการหยุดยิงชั่วคราวเพื่อปล่อยตัวประกัน และมีแผนทำสงครามต่อเพื่อกวาดล้างฮามาส โดยรัฐบาลตกลงเสนอร่างงบประมาณมูลค่า 8,200 ล้านดอลลาร์ให้รัฐสภาพิจารณา
กิเดียน ซาร์ รัฐมนตรีความมั่นคงของอิสราเอล เปิดเผยกับสถานีวิทยุของกองทัพว่า การหยุดยิงเพิ่มอีก 2 วันได้รับการตกลงภายใต้เงื่อนไขเดิม และอิสราเอลยังยินดีขยายการหยุดยิงต่อหากฮามาสยอมปล่อยตัวประกันเพิ่ม พร้อมสำทับว่า ชาวอิสราเอลจะรู้ได้ว่า ข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลงแล้วเนื่องจากกองทัพอิสราเอลจะเปิดฉากสู้รบต่อทันที
อย่างไรก็ดี อิสราเอลถูกกดดันมากขึ้นให้ขยายเวลาการหยุดยิงและเร่งรัดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่กาซา ซึ่งยูเอ็นระบุว่า มีประชาชนราว 1.7 ล้านคนต้องทิ้งบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
สัปดาห์นี้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เตรียมเดินทางเยือนตะวันออกกลางรอบที่สามนับจากสงครามกาซาระเบิดขึ้น โดยจะพบกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ในกรุงเทลอาวีฟ และประธานาธิบดีมาห์มูด แอบบาส ของปาเลสไตน์ในเมืองรามัลเลาะห์
เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ เผยว่า ภารกิจของบลิงเคนครั้งนี้คือการเน้นย้ำความจำเป็นในการเพิ่มความช่วยเหลือแก่กาซา การปล่อยตัวประกันทั้งหมด การปรับปรุงการปกป้องพลเรือนในกาซา และหลักการสำหรับอนาคตของกาซา รวมทั้งความจำเป็นในการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ที่เป็นอิสระ
ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขกาซาที่ปกครองโดยฮามาสเผยว่า แม้มีข้อตกลงหยุดยิง แต่โรงพยาบาลต่างๆ ยังไม่ได้รับเชื้อเพลิงเพื่อนำไปใช้สำหรับเครื่องปั่นไฟ
ทอร์ เวนเนสแลนด์ เจ้าหน้าที่อาวุโสของยูเอ็น เตือนว่า สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซายังคงร้ายแรง
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)