พวกนักรบปาเลสไตน์มีศูนย์บัญชาการหนึ่งที่โรงพยาบาลอัล-ชิฟา ในฉนวนกาซา จากคำกล่าวขอทำเนียบขาวในวันอังคาร (14 พ.ย.) ซึ่งเป็นการสนับสนุนคำกล่าวอ้างความชอบธรรมของอิสราเอล ในการเคลื่อนกองกำลังเข้าไปยังสถานพยาบาลแห่งนี้
จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ บอกพวกผู้สื่อข่าว โดยอ้างอิงแหล่งข่าวหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุว่า พวกนักรบฮามาสและญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ บัญชาการและมีโครงข่ายควบคุมออกมาจากโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ในฉนวนกาซา"
"เราได้รับข้อมูลว่าพวกฮามาส และญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ใช้โรงพยาบาลบางแห่งในฉนวนกาซา ในนั้นรวมถึงอัล-ชิฟา และอุโมงค์ใต้โรงพยาบาลเหล่านั้นอำพรางและสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของพวกเขา รวมถึงกักขังตัวประกัน" เคอร์บีกล่าว "เรามีข้อมูลที่ยืนยันได้ว่า พวกฮามาสใช้โรงพยาบาลดังกล่าวโดยเฉพาะ สำหรับเป็นศูนย์บัญชาการและโครงข่ายควบคุม และบางทีอาจใช้จัดเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ด้วย ซึ่งมันคืออาชญากรรมสงคราม"
ถ้อยแถลงของทำเนียบขาวสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ในขณะที่คำแถลงนี้มีขึ้นท่ามกลางแรงกดดันที่ถาโถมเล่นงานอิสราเอลมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อกรณีที่พวกเขาปิดล้อมโรงพยาบาลอัล-ชิฟา สถานที่ที่แพทย์บอกว่าคนไข้และประชาชนผู้หลบภัยสงครามต้องมาติดแหง็กในสภาพแวดล้อมอันน่าสยดสยอง
สหประชาชาติประมาณการว่ามีอย่างน้อย 2,300 คน ทั้งคนไข้ บุคลากรทางการแพทย์และพลเรือนผู้ไร้ที่อยู่อาศัย อยู่ภายในโรงพยาบาลแห่งนี้ และอาจไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ สืบเนื่องจากมีการปะทะกันอย่างดุเดือดใกล้โรงพยาบาล
อิสราเอลบอกว่าพวกเขาไม่ได้เล็งเป้าเล่นงานตัวโรงพยาบาล แต่ประกาศทำลายล้างพวกฮามาส แก้แค้นกรณีที่นักรบกลุ่มนี้เปิดปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไปราว 1,200 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และจับตัวประกันกลับไปยังฉนวนกาซาอีกราว 240 คน
นับตั้งแต่นั้น อิสราเอลดำเนินการแก้แค้นด้วยการเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกาซาอย่างหนักหน่วงและไม่รามือ ตามด้วยส่งทหารราบออกปฏิบัติการทางภาคพื้น ลุยลึกเข้าไปในฉนวนแห่งนี้ และจนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาแล้วมากกว่า 11,320 คน ในนั้นเป็นเด็กหลายพันราย
อิสราเอลยืนกรานมาตลอดว่าฮามาสใช้โรงพยาบาลต่างๆ และสิ่งปลูกสร้างพลเรือนอื่นๆ อำพรางตัว พร้อมกล่าวหาว่าพวกนักรบกลุ่มนี้ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์
อย่างไรก็ตาม มีเสียงเอะอะโวยวายจากทั่วโลกดังขึ้นเรื่อยๆ ขอให้พิสูจน์คำกล่าวอ้างดังกล่าว ท่ามกลางเรื่องราวอันน่าสยดสยองเกี่ยวกับความทุกข์ทรมานของคนไข้ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ และผู้ลี้ภัยสงคราม ปรากฏออกมาจากโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ในทุกๆ วัน
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเปิดเผยในวันอังคาร (14 พ.ย.) ว่าได้มีการฝังศพหมู่ผู้เสียชีวิตหลายคนในโรงพยาบาล ในนั้นเป็นเด็กหลายราย
จนถึงตอนนี้ อิสราเอลปฏิเสธมอบหลักฐานพิสูจน์คำกล่าวอ้างของพวกเขา ทว่าความเคลื่อนไหวแทรกแซงของสหรัฐฯ ในวันอังคาร (14 พ.ย.) เท่ากับเป็นการช่วยเสริมสถานะคำกล่าวอ้างดังกล่าว
แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่า ฮามาสมีศูนย์บัญชาการใต้โรงพยาบาลมานานหลายปี และเรียกร้องทางกลุ่มเปิดทางให้พลเรือนอพยพออกมา "เราจะสนับสนุนฝ่ายที่ 3 ที่เป็นอิสระและได้รับความเคารพ สำหรับดำเนินการอพยพผู้คนเหล่านี้ เรารู้ว่ารัฐบาลอิสราเอลจะสนับสนุนก้าวย่างดังกล่าวเช่นกัน คำถามคือ ฮามาสจะอนุญาตให้คนไข้อพยพออกจากโรงพยาบาลหรือไม่ หรือพวกเขาจะเดินหน้าใช้คนไข้ในฐานะโล่มนุษย์"
ชะตากรรมของโรงพยาบาลอัล-ชิฟา กลายเป็นประเด็นสนใจหลักของสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส โดยอิสราเอลยืนกรานว่าพวกเขาจำเป็นต้องปกป้องพลเรือน ตามหลังถูกโจมตีครั้งเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ 75 ปีของประเทศ แต่ฝ่ายเห็นต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า การปิดล้อมและทิ้งระเบิดโจมตีอย่างไม่หยุดพักกำลังก่อความทุกข์ทรมานในระยะยาวแก่พลเรือนในฉนวนกาซา
(ที่มา : เอเอฟพี)