ราคาน้ำมันขยับขึ้นมากกว่า 1% ในวันจันทร์ (13 พ.ย.) หลังรายงานประจำเดือนของโอเปก ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์อ่อนแอในสหรัฐฯ และจีน ส่วนวอลล์สตรีทปิดแคบและทองคำบวกแรง จับตาข้อมูลเงินเฟ้อของอเมริกา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในรายงานประจำเดือน โอเปกระบุว่าพื้นฐานของตลาดน้ำมันยังคงแข็งแกร่ง และกล่าวโทษการคาดเดาต่างๆ ที่ฉุดให้ราคาปรับลด ขณะเดียวกัน โอเปกได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกว่าจะเติบโตขึ้นอีกเล็กน้อยในปี 2023 และคงระดับค่อนข้างสูงสำหรับปี 2024
"รายงานตลาดน้ำมันประจำเดือนของโอเปก ดูเหมือนจะช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ทางพลังงาน ท่ามกลางการคาดการณ์อุปสงค์จะเติบโตในปีนี้ และคงอยู่ในระดับสูงสำหรับปีหน้า" เครก เออร์แลม นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสกแห่งสถาบันออนดากล่าว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในกรอบแคบๆ ในวันจันทร์ (13 พ.ย.) นักลงทุนเฝ้ารอข้อมูลเงินเฟ้ออันสำคัญยิ่งที่จะก่อความคาดหมายต่างๆ ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยสูงลิ่วไว้อีกนานแค่ไหน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 54.77 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 34,337.87 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.69 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,411.55 จุด แนสแดค ลดลง 30.36 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,767.74 จุด
นักลงทุนหันมาเพ่งเล็งดัชนีราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในตอนเช้าวันอังคาร (14 พ.ย.) ในขณะที่พวกนักเศรษฐศาสตร์คาดหมายว่ามันจะเพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนตุลาคม ลดลงจากระดับ 3.7% ในเดือนกันยายน แต่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน น่าจะยังคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนที่แล้ว
ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์ (13 พ.ย.) ดีดตัวขึ้นพอสมควร นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะให้เงื่อนงำว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงไว้อีกนานแค่ไหนโดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 12.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,950.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)