ราคาน้ำมันลงแรงกว่า 3 ดอลลาร์ในวันอังคาร (7 พ.ย.) แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เศรษฐกิจโลกอ่อนแอ บดบังความกังวลที่มีต่อสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก จับตาควาชัดเจนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และทองคำปรับลดแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 3.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 3.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้ง 2 สัญญาต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
ความเคลื่อนไหวในแดนลบ มีขึ้นตามหลังรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ผสมผสานของจีน โดยปักกิ่งนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มมากขึ้นทั้งในปริมาณและมูลค่าในเดือนตุลาคม แต่การส่งออกโดยรวมของประเทศแห่งนี้ร่วงลงเกินคาดหมาย บ่งชี้ว่าอุปสงค์โลกกำลังชะลอตัว
การส่งออกของจีนลดลง 6.4% ในแง่ของดอลลาร์ สำหรับเดือนตุลาคม เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มากกว่าระดับ 3.3% ตามที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ ส่งผลให้เวลานี้ตัวเลขการส่งออกของจีนลดลง 6 เดือนติดต่อกันแล้ว ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยระดับสูงก่อแรงกดดันในด้านลบต่อเศรษฐกิจโลก
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในกรอบแคบๆ ในวันอังคาร (7 พ.ย.) นักลงทุนยังคงมองหาความชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 56.94 จุด (0.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 34,152.80 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 12.40 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,378.38 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 121.08 จุด (0.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,639.86 จุด
มีความคาดหมายเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าเฟดใกล้จะยุติวงจรการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว แต่ตลาดยังคงอ่อนไหวต่อความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม ดังนั้น จึงจับตาความเห็นของบรรดาเหล่าเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางทั้งหลายอย่างระมัดระวัง เกี่ยวกับเส้นทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮามาส และปัจจัยนี้เองที่ฉุดให้ราคาทองคำแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ในวันอังคาร (7 พ.ย.) หลังดูเหมือนว่าความตึงเครียดในตะวันออกกลางจะซาลงไปบ้างเล็กน้อย โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 15.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,973.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)
