BREAKING: Hundreds of pro-Palestine protesters are reportedly marching towards President Joe Biden's Delaware home as they accuse him of genocide.
"President Biden, you can't hide! We charge you with genocide!" the angry mob shouted.
The protest lines up perfectly as Biden is… pic.twitter.com/QdJv7mzazp— Collin Rugg (@CollinRugg) November 11, 2023
ผู้ประท้วงฝักใฝ่ปาเลสไตน์หลายร้อยคน พากันเดินขบวนบริเวณด้านนอกบ้านพักของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในเดลาแวร์ เมื่อวันเสาร์ (11 พ.ย.) ประณามกรณีสหรัฐฯ สนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในกาซา ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วนับหมื่นราย นอกจากนี้ ยังมีการชุมนุมที่ก่อความวุ่นวายในสถานที่อื่นๆ อย่างเช่นสถานีรถไฟกลางของนิวยอร์ก และสำนักงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส
ธงปาเลสไตน์ปลิวไสว ในขณะที่ผู้คนพากันร้องตะโกน "หยุดยิงเดี๋ยวนี้" และ "ประธานาธิบดีไบเดน คุณไม่อาจหลบซ่อนได้ เราจะตั้งข้อหาคุณ ด้วยข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"
การประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ ไบเดน กำลังปราศรัยที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน เนื่องในวันทหารผ่านศึก
รัฐบาลของไบเดน กำลังเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ต่อท่าทีของพวกเขาเกี่ยวกับสงครามอิสราเอล-ฮามาส มีการชุมนุมของฝ่ายสนับสนุนปาเลสไตน์เกิดขึ้นใกล้ทำเนียบขาว หลายต่อหลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นหนึ่งในประตูทางเข้าของปีกตะวันตกเปื้อนไปด้วยรอยมือสีแดงที่หมายถึงการเปื้อนเลือด และข้อความที่เขียนว่า "โจ ผู้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"
แม้ทำเนียบขาวกล่าวอ้างว่ากำลังช่วยเหลือเจรจาหยุดการสู้รบในฉนวนกาซาช่วงสั้นๆ ในแต่ละวัน เปิดทางให้พลเรือนอพยพออกมา แต่ประธานาธิบดีไบเดน ส่งเสียงเน้นย้ำซ้ำๆ ว่า วอชิงตันสนับสนุนสิทธิในการป้องกันตนเองของอิสราเอลอย่างเต็มที่ และในวันพฤหัสบดี (9 พ.ย.) เขาบอกด้วยว่า แทบไม่มีความเป็นไปได้เลยเกี่ยวกับการหยุดยิงเต็มรูปแบบ จนกว่าอิสราเอลจะทำลายล้างพวกฮามาส
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พวกนักรบฮามาสบุกโจมตีนองเลือดเล่นงานอิสราเอล สังหารผู้คนไป 1,200 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนและจับเป็นตัวประกันราว 240 คน ขณะที่ปฏิบัติการแก้แค้นของอิสราเอลในเวลาต่อมา ทั้งทางอากาศและทางภาคพื้น สังหารผู้คนในฉนวนกาซาไปแล้วมากกว่า 11,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนเช่นกัน และจำนวนมากเป็นเด็ก
องค์กรความช่วยเหลือทั้งหลาย เตือนว่าหายนะด้านมนุษยธรรมใกล้มาถึงแล้ว เนื่องจากเสบียงต่างๆ ลดน้อยถอยลงและผู้ได้รับบาดเจ็บไหลบ่าเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาล แม้เวลานี้ระบบสาธารณสุขแบกรับภาระจนเกินขีดความสามารถแล้วก็ตาม
นอกจากบริเวณหน้าบ้านพักของประธานาธิบดีไบเดนแล้ว ในวันศุกร์ (10 พ.ย.) หรือหนึ่งวันก่อนหน้านี้ พบเห็นผู้ประท้วงฝักใฝ่ประชาธิปไตยไหลบ่าสู่ท้องถนนในเมืองแมนฮัตตัน เป็นคืนที่ 2 ติดต่อกัน ส่งเสียงเรียกร้องข้อตกลงหยุดยิงในทันที บีบให้สถานีรถไฟแกรนด์เซ็นทรัล (Grand Central Terminal) ต้องปิดให้บริการชั่วคราว
การชุมนุมเริ่มต้นขึ้นที่วงเวียนโคลัมบัส โดยผู้ประท้วงหลายพันคนเดินขบวนไปตามท้องถนนสายต่างๆ เรียกร้องให้หยุดยิง จากนั้้นก็มุ่งหน้าสู่อาคารของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส สาดสีแดงเข้าใส่ประตูกระจก เรียกร้องให้หยุดยิงในกาซาและกล่าวหาสื่อมวลชนเสนอข่าวลำเอียงเข้าข้างอิสราเอล ในรายงานข่าวเกี่ยวกับสงครามอิสราเอล-ฮามาส ก่อนมุ่งหน้าสู่สถานีรถไฟแกรนด์เซ็นทรัล
ที่สถานีรถไฟแกรนด์เซ็นทรัล พวกผู้ประท้วงพากันปิดล้อมอาคารสถานี บีบให้ต้องปิดบริการและก่อความวุ่นวายต่อการเดินรถไฟหลายเส้นทาง
ตำรวจต้องปักหลักอยู่ในจุดชุมนุมจนถึงตอนเช้าวันเสาร์ (11 พ.ย.) และได้ทำการจับกุมพวกที่มีพฤติกรรมก่อความไม่สงบเรียบร้อยไป 6 คน
(อาร์ทีนิวส์/เอ็นบีซีนิวยอร์ก)