xs
xsm
sm
md
lg

‘เซเลนสกี’ กำลังหมดประโยชน์เสียแล้วหรือ? เรื่องจากปกของนิตยสารไทม์ชี้ว่า อเมริกันกำลังเปลี่ยนแปลงท่าทีต่อผู้นำยูเครนรายนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ตอริก ซีริล อะมาร์ ***


ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ขณะแถลงข่าวที่ด้านหน้าทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2023
Is Zelensky done for? A new Time Magazine cover story indicates changing American attitudes to Ukrainian leader
By Tarik Cyril Amar
02/11/2023

โวโลดิมีร์ เซเลนสกี นักแสดงที่ผันตัวเองมาเป็นนักการเมือง เวลานี้รู้สึกว่าตนเองถูกปล่อยเกาะจากพวกมหาอำนาจตะวันตก ซึ่งได้เคยโอบอุ้มและเชิดชูอีโก้ของเขาจนพองคับโลกตลอดระยะเวลาเกือบๆ 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ตามรายงานเด่นประจำฉบับของนิตยสารไทม์

เรื่องจากปกขนาดยาวเหยียดของนิตยสารไทม์ (Time Magazine) [1] ที่เผยแพร่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เป็นข้อเขียนซึ่งมุ่งเสนอตัวเองในฐานะที่เป็นการหยั่งลึกเข้าไปในโลกและในความคิดจิตใจของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันคือการโจมตีแบบพลิกหลังมือเข้าใส่อย่างไม่ให้ทันตั้งตัว แต่ตั้งใจอย่างมุ่งมั่นเพื่อทำลายกัน

จากข้อเขียนชิ้นนี้ บรรดาท่านผู้อ่านได้เรียนรู้ว่า เซเลนสกีมีความรู้สึกว่า เขาถูก –และกระทั่งย่ำแย่ยิ่งกว่านั้นอีก – เขากำลังถูก ทอดทิ้งจากนานาชาติ จนกระทั่งพวกผู้ช่วยใกล้ชิดไม่เพียงแค่สงสัยไม่มั่นใจในตัวเขาเท่านั้น แต่ยังบอกเล่าให้ประดานักหนังสือพิมพ์ต่างประเทศทราบอีกด้วย ทั้งเรื่องที่คุณลักษณะชอบโอ้อวดตัวเองของนักแสดงผู้นี้กำลังถอยหลังให้แก่ความโกรธเกรี้ยวท่ามกลางความครุ่นคิดวิตกกังวล และเรื่องที่เขาปฏิเสธไม่ยอมเผชิญหน้าความเป็นจริง จนกระทั่งกลายเป็นการปิดกั้นความพยายามทุกๆ อย่าง แม้กระทั่งเพียงแค่ในความคิด ในเรื่องการหาทางออกด้วยการเจรจากันเพื่อให้หลุดพ้นไปจากสงครามที่กำลังสร้างความวิบัติหายนะคราวนี้

ความสนับสนุนจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดเหลือเกินกำลังหดหายไปอย่างรวดเร็ว การต้อนรับในระหว่างที่เซเลนสกีไปเยือนวอชิงตันเมื่อไม่นานมานี้ช่างเป็นไปอย่างเย็นชา ขณะที่ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันซึ่งเป็นปัญหาอมตะนิรันดร์กาลที่ทำให้ยูเครนอยู่ในสภาพเป็นอัมพาตเรื่อยมา กลับกำลังถูกหยิบยกขึ้นมาเสนอให้พิจารณากันอีกครั้งด้วยท่าทีเรียกร้องยืนกรานยิ่งขึ้นกว่าเดิม เวลาเดียวกัน พวกนายทหารระดับสูงภายในประเทศกำลังได้รับคำสั่งด้านการสู้รบจากประธานาธิบดี ซึ่งอยู่ห่างไกลจากความเป็นจริงเสียจนกระทั่งนายทหารใหญ่เหล่านี้ไม่สามารถแม้กระทั่งจะพยายามนำมาปฏิบัติตาม

กล่าวโดยสรุป เราได้เห็นผู้นำที่อยู่ในสภาพโดดเดี่ยวซึ่งไม่มีทางที่จะยอมรับว่าเขากำลังพ่ายแพ้ อีกทั้งกำลังอยู่ในสภาพพรักพร้อมที่จะเสียสละแม้กระทั่งประเทศชาติของเขาและประชาชนของเขาให้เพิ่มมากขึ้นไปอีกเพื่อตอบสนองความดื้อรั้นดันทุรังของเขา พิจารณากันในเชิงจิตวิทยา การปฏิเสธไม่ยอมรับความเป็นจริงของเซเลนสกีเป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจกันได้ (ถึงแม้ไม่ใช่เรื่องที่สามารถให้อภัยกันได้ก็ตามที) เขาคือผู้ที่ต้องแบกความรับผิดชอบจำนวนมาก สำหรับการที่ยูเครนก้าวเดินไปในเส้นทางแห่งการต้องพึ่งพาอาศัยฝ่ายตะวันตกแต่เพียงด้านเดียวอย่างสุดโต่ง เป็นความจริงที่ว่ายังมีคนอื่นๆ ฝ่ายอื่นๆ อีก ซึ่งมีส่วนร่วมในความล้มเหลวอย่างอัปยศของสงครามตัวแทนคราวนี้ ไม่ว่าจะในยูเครน หรือในสหรัฐฯ นาโต้ และอียู แต่สำหรับในกรุงเคียฟแล้ว เซเลนสกีคือบุคคลที่ควรแก่การถูกประณามอย่างหนักหน่วงที่สุด เพราะจริงๆ แล้วเขามีเครื่องมือมีช่องทางซึ่งสามารถที่จะใช้ป้องกันหรือที่จะยุติความหายนะของประเทศชาติเช่นนี้ได้

เขาสมควรที่จะรักษาและปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา [2] ที่ชัดเจนประการหนึ่งซึ่งเขาให้ไว้ในตอนรณรงค์หาเสียง (ก่อนที่เขาจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งด้วยเสียงถล่มทลายเป็นประวัติการณ์ในปี 2019) ซึ่งได้แก่การสร้างสันติภาพด้วยการยอมประนีประนอมกับสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ ที่ในเวลานั้นยังมีฐานะเป็นแคว้นซึ่งประกาศแยกตัวออกไปของยูเครน เขาสมควรที่จะยึดมั่นทำตามความตกลงสันติภาพกรุงมินสก์ฉบับที่ 2 ปี 2015 (the 2015 Minsk 2 peace agreement) [3] อย่างจริงจัง แทนที่จะบ่อนทำลายความตกลงนี้อย่างเป็นระบบ (โดยได้รับการกระตุ้นส่งเสริมจากฝ่ายตะวันตก) เขาสมควรที่จะละทิ้งความคิดเรื่องการเข้าเป็นสมาชิกองค์การนาโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อกลุ่มพันธมิตรทางทหารที่นำโดยวอชิงตันแห่งนี้คอยเอาแต่ป้อนความหวังหลอกๆ เพื่อให้ประเทศของเขายอมตาย ทว่าไม่ได้เคยเสนอแม้กระทั่งหนทางที่เป็นรูปธรรมสำหรับให้ยูเครนได้เข้าเป็นสมาชิกกันจริงๆ กระทั่ง ณ การประชุมสุดยอดของนาโตที่กรุงวิลนีอุสในปีนี้ ซึ่งยังคงมีแต่การให้คำมั่นสัญญาที่ว่างเปล่าชนิดเป็นการหยามหยันกัน เรื่องนี้ก็ได้ถูกตอกย้ำให้เห็นกันอีกคำรบหนึ่ง [4] เซเลนสกีสมควรที่จะยุติการรับฟังฝ่ายตะวันตก เมื่อตอนที่ฝ่ายหลังตั้งป้อมต่อต้านแผนการริเริ่มของฝ่ายรัสเซียในช่วงปลายปี 2021 ซึ่งเสนอขึ้นมาด้วยความมุ่งมั่นหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสงคราม โดยพร้อมที่จะยินยอมประนีประนอมครั้งมโหฬาร เขาสมควรที่จะปฏิเสธไม่ยอมเชื่อฟังเมื่อตอนที่สหรัฐฯ แนะนำ [5] ยูเครนให้โยนทิ้งข้อตกลงเพื่อสร้างสันติภาพขึ้นมาอย่างรวดเร็วในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2022 สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นนี้ไม่มีอะไรทำได้ง่ายๆ หรือสามารถทำไปได้โดยไม่มีความเสี่ยงหรอก แต่ถ้าคุณต้องการทำแต่อะไรที่มันง่ายๆ แล้ว ก็อย่ามาสมัครเป็นประธานาธิบดีเลย หรือไม่เมื่อเป็นอยู่แล้ว ก็ลาออกจากตำแหน่งไปเสียเลยดีกว่า

กระทั่งจนถึงเวลานี้ เซเลนสกียังคงสามารถที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาในวันใดวันหนึ่ง และหมุนไปหา ถ้าไม่ใช่ประธานาธิบีดวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ก็อาจจะเป็นคนอื่น อย่างเช่น ประธานาธิบดีลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล เพื่อขอร้องให้เขาเข้ามาทำหน้าที่เป็นคนกลางจริงๆ สำหรับการเริ่มต้นการเจรจากันอย่างมีเนื้อหาสาระ แท้ที่จริงแล้วมันย่อมจะเป็นหน้าที่ของเซเลนสกี ที่ในท้ายที่สุดแล้วจะต้องเอาชนะอีโก้อันพองโตเกินเหตุของเขา และรับใช้ประเทศชาติของเขา แทนที่จะรับใช้ฝ่ายตะวันตก

มีเหตุผลดีๆ อยู่มากมายที่จะทำให้เกิดความรู้สึกสำนึกผิดขึ้นมา แต่เซเลนสกีอาจจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเลยก็ได้ ความล้มเหลวเป็นการส่วนตัวที่เขาจะต้องยอมรับนั้นมันโหดร้ายเกินไป แทนที่จะทำเช่นนั้น เขาจึงยังคงพร่ำสาธยายมนตราแบบหลงตัวเองที่ว่า ชะตากรรมของโลกทั้งใบเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับยูเครน (ซึ่งก็คือขึ้นอยู่กับตัวเขานั่นแหละ) และสงครามครั้งนี้อาจขยายออกไปทั่วโลกถ้าหากยูเครนไม่ได้เป็นผู้ชนะ กระทั่งถ้าหากเขาเป็นผู้ปราชัยในสงครามครั้งนี้อย่างเป็นทางการ เขาก็ยังอาจใช้วันเวลาที่ยังหลงเหลืออยู่ของเขาขณะลี้ภัยอยู่ต่างแดนไปในการเที่ยวประณามคนอื่นๆ และเผยแพร่ตำนานเรื่องเล่าว่าด้วยการที่เขาถูกทรยศถูกแทงข้างหลัง อันที่จริงแล้ว ข้อเขียนของนิตยสารไทม์ชิ้นนี้ ก็แสดงให้เห็นว่าเขาเริ่มต้นเรื่องเล่าเช่นนี้ขึ้นมาแล้วด้วยซ้ำ ด้วยการระบุชัดๆ ว่าตัวเขาเอง –ตัวเขาเองแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น— คือผู้ที่เชื่อศรัทธาอย่างจริงแท้แน่นอนที่สุดว่ายูเครนจะต้องเป็นผู้ชนะ และกำลังกล่าวโทษฝ่ายตะวันตกที่ทอดทิ้งเขา ด้วยการใช้คำอุปมาเปรียบเทียบที่เผยให้เห็นความเป็นจริงอันน่าเศร้าใจ เขาพูดถึงบรรดาท่านผู้ชมของเขาที่อยู่นอกยูเครนว่า กำลังหมดความสนใจในสิ่งที่พวกเขา –ตามความรู้สึกของเขา— มองว่าเป็นรายการโชว์ที่นำมาฉายต่อเนื่องกันหลายซีซันเกินไปแล้ว

เราไม่สามารถทราบอย่างแจ่มแจ้งถึงเบื้องหลังของการที่นิตยสารไทม์ รื้อถอนทำลายรูปปั้นที่ตนเองได้เคยช่วยเหลือเชิดชูให้มีภาพลักษณ์อันสูงส่งจนกลายเป็นลัทธิบูชาบุคคลอย่างหนึ่งขึ้นมา แต่มีอยู่ 2 สิ่งที่ชัดเจนแน่นอนแล้ว ได้แก่ ทั้งน้ำเสียงและเนื้อหาซึ่งต้องการบอกกล่าวนั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนแล้วอย่างรุนแรง อีกทั้งไทม์ก็ไม่ได้กระทำไปเพียงลำพังรายเดียว

วันเวลาของเซเลนสกีในการเป็นผู้ซึ่งได้รับความรักใคร่ชื่นชมของฝ่ายตะวันตก เป็นคนที่ฮอลลีวูดยกแก้วดื่มอวยพรให้ เป็นการรวมตัวกันของหลายๆ วีรบุรุษที่ผสมผสานเข้าด้วยกันได้อย่างล้ำลึกเกินจินตนาการในสไตล์ของจูราสสิกปาร์ก จากยีนของเช กูเวรา และวินสตัน เชอร์ชิล เป็นอันว่ากำลังหมดสิ้นลงแล้ว

เหตุผลที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ขึ้นมา ก็มีความชัดเจนเช่นกัน นั่นคือ สงครามตัวแทนครั้งนี้กำลังประสบความล้มเหลว และนอกจากนั้น เวลานี้วอชิงตันยังกำลังให้ความสำคัญลำดับแรกๆ แก่การช่วยเหลืออิสราเอลในการดำเนินการโจมตีแบบล้างเผ่าพันธุ์ของพวกเขาต่อชาวปาเลสไตน์ และบางทีอาจจะเพื่อเริ่มต้นสงครามที่มีขนาดใหญ่โตยิ่งขึ้นในตะวันออกกลาง เซเลนสกีกระทั่งพูดสารภาพสิ่งซึ่งมีผลออกมาเป็นรูปแบบของ “การอิจฉาอิสราเอล” รูปแบบหนึ่งสำหรับบุรุษผู้เชื่อว่าเขาสามารถที่จะเรียนรู้จากรัฐบริวารยอดนิยมของอเมริกา เกี่ยวกับวิธีการในการสร้างสังคมนักชาตินิยมที่ถูกแปรให้กลายเป็นรัฐทหารอย่างสูงลิ่วไปแล้ว อีกทั้งในทางพฤตินัยก็เป็นสังคมเผด็จการรวบอำนาจ เรื่องนี้ย่อมต้องทำให้เกิดความรู้สึกขมขื่น ถึงแม้มันเป็นความขื่นขมที่เขาสมควรได้รับก็ตามที

กล่าวโดยสรุป การรื้อถอนทำลายของนิตยสารไทม์ครั้งนี้ อาจจะเป็นสัญญาณแสดงว่าสหรัฐฯ กำลังตระเตรียมพื้นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวเพื่อเล่นงานโจมตีเซเลนสกี เหมือนกับพวกผู้นำในสงครามตัวแทนคนอื่นๆ ก่อนหน้าเขา เป็นต้นว่า โง ดินห์ เดียม อดีต “มนุษย์มหัศจรรย์” ของอเมริกาในเวียดนาม (ใต้) ประธานาธิบดียูเครนผู้นี้อาจค้นพบว่าตนเองไม่ได้เป็นคนสำคัญระดับมิอาจขาดหายไปได้ หากแต่สามารถที่จะถูกทิ้งขว้าง และอาจถูกทิ้งขว้างได้ด้วยวิธีการต่างๆ หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการทำรัฐประหารยึดอำนาจโดยฝ่ายทหารอย่างเปิดเผยหรืออย่างซ่อนเร้นก็ตามที การจัดการเลือกตั้งชนิดที่มีการบงการชี้นำ (หรือภายหลังการเลือกตั้งชนิดนี้) หรือด้วยวิธีการอื่นๆ

อย่างไรก็ดี สิ่งที่หลุดรอดจากความสนใจของฝ่ายตะวันตกไปเป็นส่วนใหญ่ก็คือปฏิกิริยาของชาวยูเครนต่อข้อเขียนชิ้นนี้ของนิตยสารไทม์ ทั้งนี้ มันก่อให้เกิดเสียงสะท้อนทั้งในสื่อมวลชนและในหมู่ชนชั้นนำทางการเมือง อเลคเซย์ ดานิลอฟ (Aleksey Danilov) เลขาธิการของสภาความมั่นคงและกลาโหมแห่งชาติ (National Security and Defense Council) ที่ทรงอิทธิพลยิ่ง ออกมาปฏิเสธอย่างชนิดที่ไม่อาจโน้มน้าวใจใครได้เลย [6] ว่า ข้อเขียนชิ้นนี้เป็นการให้ข้อเท็จจริงที่ผิดพลาด ขณะเดียวกัน ก็เรียกร้องพวกหน่วยงานความมั่นคงให้หาตัวพวกที่แอบปล่อยข่าวรั่วไหลซึ่งมีส่วนให้ข้อมูลแก่รายงานชิ้นนี้ มาตรการควบคุมความเสียหายเช่นนี้ย่อมไม่ใช่สิ่งที่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด

สำหรับพวกโซเชียลมีเดียในยูเครนนั้น มีบางเสียงที่ออกมาประณามกล่าวโทษรัสเซีย ตัวอย่างเช่น คอสเตียนติน มัตเวียนโก (Kostiantin Matvienko) คอมเมนเตเตอร์ทางการเมือง ซึ่งคาดเดาว่า ข้อเขียนชิ้นนี้ของนิตยสารไทม์คือหลักฐานแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของพวกที่เป็นปรปักษ์ต่อฝ่ายตะวันตก (ซึ่งเขาเรียกว่าเป็น “อักษะแห่งปีศาจ” axis of evil อันเป็นคำที่พวกนีโอคอนอเมริกันเคยใช้กัน) ที่ต้องการลดทอนเกียรติภูมิของเซเลนสกี เพราะพวกเขา –มัตเวียนโกต้องการที่จะเชื่อว่า— หวาดกลัวฐานะอำนาจทางศีลธรรมของประธานาธิบดียูเครนผู้นี้ แต่ว่าพวกปรปักษ์ต่อฝ่ายตะวันตกเหล่านี้สามารถที่จะทำให้นิตยสารไทม์กระทำตามความต้องการของพวกเขาได้อย่างไร มัตเวียนโกไม่ได้อธิบายออกมา ปฏิกิริยาอย่างพิลึกแปลกประหลาดเช่นนี้ยังวาดภาพให้เห็นด้วยว่า อย่างน้อยที่สุดก็ในหมู่ปัญญาชนชาวยูเครนบางส่วน ยังคงมีความพยายามยืนกรานรักษาภาพลักษณ์ที่เลยเถิดเกินจริงของเซเลนสกีเอาไว้ โดยสิ่งที่ติดมาด้วยก็คืออิทธิพลในทางระหว่างประเทศของยูเครน [7] จริงอยู่ ความรู้สึกว่าชาติตนเองสำคัญเสียเหลือเกินนั้น ไม่ได้ปรากฏให้เห็นแต่เฉพาะในประเด็นปัญหายูเครนนี้หรอก ทว่าในกรณีของยูเครนนี้ ภาพมายาเช่นนี้ทำให้การยุติสงครามยิ่งเป็นเรื่องยากลำบากมากขึ้นไปอีก

ในเวลาเดียวกัน ผู้สังเกตการณ์ชาวยูเครนหลายคนชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในน้ำเสียงที่นิตยสารไทม์ส่งสัญญาณออกมา อย่างที่นักหนังสือพิมพ์ชาวยูเครนผู้หนึ่งบอกว่า ภาพลักษณ์แต่เดิมของเซเลนสกี คือ ไพ่ผู้วิเศษในไพ่ทาโรต์ (Tarot magician) ซึ่งเป็นไพ่ตัวที่เกี่ยวข้องกับทั้งการใช้กลอุบายอันทรงพลังและทั้งความสามารถที่จะเป็นช่องทางส่งพลังแห่งจักรวาล แต่มาถึงเวลานี้เขาดูเหมือนกับไพ่ฤาษี (hermit) ผู้โดดเดี่ยวและไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนอื่น “ความเป็นศาสดาพยากรณ์” ของเขา ได้หลีกทาง [8] ให้แก่ “ความหวาดกลัวสังคม” ไปเสียแล้ว การเสนอภาพเช่นนี้แม้ดูเป็นความเพ้อฝันเรื่อยเจื้อย แต่ก็เป็นจินตนาการที่ชวนให้ตื่นตะลึง กล่าวคือ มันสะท้อนให้เห็นว่า อย่างน้อยที่สุดก็สำหรับชาวยูเครนบางคน การรื้อถอนทำลายรูปเคารพของนิตยสารไทม์คราวนี้เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล

ยังมีอีกหลายตัวอย่างทำนองนี้ที่สามารถหยิบยกขึ้นมาได้อีก กระนั้นมันก็หลีกเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องพูดว่าสิ่งเหล่านี้ยังเป็นแค่เรื่องเล่าระดับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ไม่ใช่ท้องเรื่องที่สำคัญแต่อย่างใด ทว่าจุดสำคัญอยู่ตรงที่ว่า ถ้าหากการโจมตีเซเลนสกีของนิตยสารไทม์เกิดขึ้นเมื่อสัก 1 ปีก่อน อย่างน้อยที่สุดยูเครนก็จะต้องแลดูเหมือนกับสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการปฏิเสธข้อเขียนนี้ด้วยความกราดเกรี้ยว มาถึงตอนนี้มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ความสงสัยข้องใจและความหงุดหงิดผิดหวังกำลังเพิ่มทวีขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่ในต่างแดนเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นภายในประเทศอีกด้วย

ย่อมเป็นความผิดพลาดที่จะรีบกระโจนพรวดไปสู่ข้อสรุป คำถามหลายๆ ข้อยังคงต้องการคำตอบ ถ้าหากสหรัฐฯ กำลังหาทางทำให้เซเลนสกีอ่อนแอลงในตอนนี้จริงๆ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้มีวัตถุประสงค์อะไร? เพื่อข่มขู่คุกคามเขา และทำให้เขาว่านอนสอนง่ายมากขึ้นหรือ? เพื่อนำเอาผู้นำอีกคนหนึ่งมาแทนที่เขา โดยจะเป็นผู้นำซึ่งยอมรับสันติภาพที่เกิดจากการประนีประนอม เพื่อที่วอชิงตันจะได้สามารถหันไปโฟกัสยังตะวันออกกลางและเอเชีย (ขณะปล่อยทิ้งยูเครนและอียูให้จมอยู่ในความยุ่งเหยิง)? หรือเพื่อให้สงครามครั้งนี้ยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้ภายใต้การบริหารจัดการที่แตกต่างออกไป?

ถ้าหากเซเลนสกีรู้สึกว่าอะไรๆ ก็เต็มไปด้วยความลำบากยุ่งยากและรู้สึกโกรธแค้นขึ้นมา เรื่องนี้มันคือการสะท้อนให้เห็นถึงความซึมเศร้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งบางทีอาจเจือผสมไว้ด้วยอาการจิตหวาดระแวงของนักการเมืองผู้ซึ่งหวาดกลัวผลพวงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมากับความล้มเหลวของเขา? หรือว่าเขากำลังแสดงออกให้เห็นถึงความสำนึกอย่างสมเหตุสมผลถึงอันตรายอันแท้จริง ทั้งจากภายในประเทศ เช่นเดียวกับจาก “มิตรสหาย” ของเขาในต่างแดน?

สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือว่า อดีตเจ้าของภาพในโปสเตอร์ที่ได้รับการยกย่องเชิดชูว่าเป็นนักต่อสู้เพื่อ “คุณค่าต่างๆ ของโลกตะวันตก” ผู้ยิ่งใหญ่ เวลานี้ได้สูญเสียรัศมีเรืองรองของเขาไปเสียแล้ว สำหรับเซเลนสกี ซึ่งการก้าวผงาดขึ้นมาของเขาและความสามารถในการบริหารจัดการภาพลักษณ์ของเขามีความโดดเด่นเป็นพิเศษแม้กระทั่งเมื่อวัดกันด้วยมาตรฐานร่วมสมัย เรื่องนี้ย่อมต้องถือว่าเป็นข่าวร้าย

ตอริก ซีริล อะมาร์ เป็นนักประวัติศาสตร์จากเยอรมนีซึ่งกำลังทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยคอช (Koç University) นครอิสตันบุล, ประเทศตุรกี ในหัวข้อว่าด้วยรัสเซีย ยูเครน และยุโรปตะวันออก ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามเย็นทางวัฒนธรรม และการเมืองเรื่องของความทรงจำ

ข้อเขียนชิ้นนี้มาจากเว็บไซต์ข่าว RT สามารถติดตามดูต้นฉบับภาษาอังกฤษได้ที่ https://www.rt.com/news/586426-us-zelensky-west-article/
ทั้งนี้ทาง rt.com ระบุด้วยว่า คำแถลง ทัศนะ และความคิดเห็นต่างๆ ที่แสดงเอาไว้ในคอลัมน์นี้ เป็นของผู้เขียนเท่านั้น และไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นตัวแทนคำแถลง ทัศนะ และความคิดเห็นของ RT


เชิงอรรถ
[1]เรื่องจากปกของนิตยสารไทม์เรื่องนี้ในพากย์ภาษาอังกฤษ ดูได้ที่ https://time.com/6329188/ukraine-volodymyr-zelensky-interview/
[2] https://www.bbc.com/news/world-europe-49903996
[3] https://www.rt.com/russia/549148-ukraine-deal-anniversary-war/
[4] https://www.bbc.co.uk/news/world-europe-66167616
[5] https://www.rt.com/russia/585775-russia-ukraine-possible-peace-us/
[6]https://www.pravda.com.ua/rus/news/2023/10/31/7426576/
[7]https://glavcom.ua/country/politics/zelenskij-u-time-jak-ukrajintsi-vidreahuvali-na-skandalne-intervju--965592.html
[8]https://gazeta.ua/blog/60545/najcikavishe-iz-skandalnoyi-statti-time-pro-bili-sorochki-ta-nittya-ermaka
กำลังโหลดความคิดเห็น