อิสราเอลยิงถล่มรถฉุกเฉินคันหนึ่งในกาซา ซิตี เมื่อวันศุกร์ (3 พ.ย.) อ้างว่ามันกำลังบรรทุกพวกนักรบ แต่ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในฉนวนที่อยู่ภายใต้การปกครองของฮามาส ยืนยันว่ารถฉุกเฉินคันดังกล่าวกำลังอพยพผู้ได้รับบาดเจ็บที่พื้นที่ทางเหนือ ซึ่งถูกปิดล้อมลงไปทางใต้
อัสราฟ อัล-ไกดรา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขในกาซา ระบุว่า รถฉุกเฉินที่ถูกอิสราเอลเล่นงานนั้น เป็นส่วนหนึ่งของคาราวานรถที่กำลังมุ่งหน้าออกจากโรงพยาบาลอัล-ชิฟา พร้อมบอกว่ามีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายคน แต่ไม่ได้ให้ตัวเลขที่แน่ชัด อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา กระทรวงสาธารณสุขแห่งนี้ออกมายืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 13 ราย
กองทัพอิสราเอลรุดชี้แจงว่า พวกเขาตรวจพบและโจมตีเข้าใส่รถฉุกเฉินคันหนึ่ง ซึ่งถูกใช้งานโดยเครือข่ายก่อการร้ายฮามาสในเขตสู้รบ
อย่างไรก็ตาม ทีโดรส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก บอกว่าเขารู้สึกช็อกอย่างที่สุด จากการโจมตีของอิสราเอลที่ก่อให้เกิดการเสียชีวิตใส่รถฉุกเฉินคันหนึ่ง ใกล้กับโรงพยาบาลใหญ่ที่สุดของฉนวนกาซา
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพี พบเห็นร่างไร้วิญญาณหลายศพอยู่ภายในรถฉุกเฉินที่อยู่ในสภาพพังเสียหายยับ รอบนอกโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ของกาซา ซึ่งนอกเหลือจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ามารักษาตัวจนล้นโรงพยาบาลแล้ว ยังมีพลเรือนอีกจำนวนมากที่เข้ามาหลบภัยจากการทิ้งระเบิดของอิสราเอล
กระทรวงสาธารณสุขกาซา เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9,227 ราย นับตั้งแต่อิสราเอลเปิดปฏิบัติการโจมตีใส่ฉนวนที่มีประชากร 2.3 ล้านคนแห่งนี้ แก้แค้นกรณีที่พวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมอิสราเอล อาละวาดเข่นฆ่าผู้คนไป 1,400 ราย และจับผู้คนไปเป็นตัวประกันราว 200 คน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
พล.ร.ต.ดาเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวระหว่างแถลงสรุปว่าจนถึงตอนนี้ อิสราเอลได้สั่งหารพวกผู้บัญชาการของฮามาสที่อยู่เบื้องหลังวางแผนโจมตี 7 ตุลาคม ไปแล้วอย่างน้อย 10 ราย อย่างไรก็ตาม กองทัพอิสราเอลยอมรับว่าพวกเขาสูญเสียกำลังพลไป 23 ราย ในปฏิบัติการโจมตีแก้แค้น
รัฐบาลฮามาสบอกว่ากองกำลังอิสราเอล โจมตีใส่ขบวนรถฉุกเฉินที่กำลังเคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บจากกาซา ซิตี ไปยังจุดผ่านดินฟาตาห์ ที่อยู่ติดกับชายแดนอียิปต์
มีผู้ถือครองพาสปอร์ตต่างชาติและผู้รับใช้มากกว่า 300 คน เดินทางจากฉนวนกาซาเข้าสู่อียิปต์ในวันศุกร์ (3 พ.ย.) ผ่านจุดผ่านแดนฟาตาห์ เช่นดียวกับกลุ่มผู้อพยพทางการแพทย์กลุ่มเล็กๆ
ฝรั่งเศสเปิดเผยว่าในบรรดาชาวต่างชาติเหล่านั้นมีพลเรือนของพวกเขารวมอยู่ด้วย 34 ราย ส่วนสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีพลเรือนอเมริกันและสมาชิกในครอบครัว 100 คน เดินทางออกจากกาซาในวันพฤหัสบดี (2 พ.ย.) พร้อมคาดหมายว่าจะมีชาวอเมริกาอีกกลุ่มเดินทางออกมาในวันศุกร์ (3 พ.ย.)
สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ให้คำจำกัดความสถานการณ์ในเวสต์แบงก์ที่ถูกอิสราเอลยึดครอง ว่า เป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่ง โดยชี้ว่ากองทัพอิสราเอลยกระดับการใช้ยุทธวิธีทางทหารและอาวุธในปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายในดินแดนแห่งนี้
มีชาวปาเลสไตน์ 132 คน ในนั้นเป็นเด็ก 41 คน ถูกสังหารในเวสต์แบงก์ โดยในนั้น 124 คนจากฝีมือของทหารอิสราเอล และ 8 คนจากฝีมือของพวกตั้งถิ่นฐานอิสราเอล อย่างไรก็ตาม มีทหารอิสราเอลสังเวยชีวิตให้ความรุนแรงนี้ 2 รายเช่นกัน
ท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เดินทางเยือนภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นครั้งที่ 2 ในเวลาห่างกันไม่ถึงเดือน เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนอิสราเอล ในการเผชิญหน้ากับฮามาส
บลิงเคน เรียกร้องให้อิสราเอลหยุดปฏิบัติการรุกรานทางทหารเป็นการชั่วคราว เพื่อเปิดทางความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์เข้าสู่ฉนวนกาซา แต่เขาถูกสวนกลับโดย เบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งปฏิเสธหยุดพักใดๆ จนกว่าพวกฮามาสจะปล่อยตัวประกันทั้งหมด
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)