For those of you still questioning what happened at the al-Ahli Hospital in #Gaza last night, we have receipts.
Watch: pic.twitter.com/n7yN68WyAv— Israel ישראל 🇮🇱 (@Israel) October 18, 2023
Having spent 2 days looking at all the 'OSINT' accounts none can explain this video and I will tell you why. Sometimes in life you just have to rely on your eyes and ear.
This is a missile that is locked onto a target & headed straight for it. This is what hit the hospital. pic.twitter.com/q0wAyfOISq— Citizen Journalists (@citizenjournos_) October 19, 2023
On the morning of October 18th, Israel Defence Forces released this video https://t.co/0edVN249Nr. https://t.co/8gAKfOuJj7 performed an audio analysis and found that this recording was manipulated and cannot be used as a credible source of evidence. 1/4— earshot.ngo (@earshot_ngo) October 20, 2023
https://t.co/8gAKfOubtz performed a Doppler Effect analysis from two videos from the missile attack on the Al-Ahli hospital. The results cast doubt on the IDF’s claim that the missile that hit the hospital approached from the south-west. #AlAhli #IDF 1/7 pic.twitter.com/eDz9emxz6H— earshot.ngo (@earshot_ngo) October 20, 2023
A second video captures the moment of the strike from around 1,500 meters north-west of the hospital. In this video, the missile can be heard moving with a less pronounced Doppler Effect, where the pitch is increasing up to the moment of the explosion. #AlAhli #IDF 6/7 pic.twitter.com/HCMggKis47— earshot.ngo (@earshot_ngo) October 20, 2023
พวกผู้เชี่ยวชาญที่ทำการวิเคราะห์วิดีโอและคลิปเสียง พบความไม่ลงรอยต่างๆ อย่างมากในคำกล่าวอ้างของอิสราเอล ที่กล่าวหาว่าพวกนักรบปาเลสไตน์อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดนองเลือดที่โรงพยาบาลอัล-อาห์ลี เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
คำกล่าวอ้างเกี่ยวกับผลการวิเคราะห์นี้มาจาก Forensic Architecture องค์กรวิจัยที่มีสำนักงาน ณ มหาวิทยาลัยลอนดอน และ Earshot กลุ่มเอ็นจีโอที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์เสียงจากคลิปวิดีโอต่างๆ ที่ได้มาจากพื้นที่ขัดแย้งทั้งหลาย และเคสต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน
โรงพยาบาลแห่งนี้ถูกทำลายโดยเหตุระเบิดหนึ่งเมื่อวันอังคาร (17 ต.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 500 คน จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์
เจ้าหน้าที่อิสราเอล เผยแพร่หลักฐาน 2 ชิ้นที่อ้างว่าเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าโรงพยาบาลถูกเล่นงานโดยจรวดลูกหนึ่งของนักรบฮามาส โดยในวิดีโอเป็นภาพที่บรรดาจรวดที่ปาเลสไตน์ยิงออกมา กำลังพุ่งจากทิศทางตะวันออกไปตะวันตก และดูเหมือนหนึ่งในนั้นจะแตกเป็นเสี่ยง เกิดแสงวาบและตกใส่โรงพยาบาล พร้อมกับอ้างสามารถดักฟังการสนทนาทางโทรศัพท์ ที่เป็นเสียงการสนทนากันของพวกนักรบฮามาส ที่พูดว่าจรวดที่ยิงออกมานั้นไม่เป็นไปตามที่คาดคิดและตกใส่ฉนวนกาซา
"ทั่วทั้งโลกควรรู้ว่า การยิงใส่โรงพยาบาลในกาซา คือการก่อการร้ายอันโหดร้ายป่าเถื่อนในกาซา และไม่ใช่ฝีมือของกองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอล" เบจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เขียนบนสื่อสังคมออนไลน์เมื่อคืนวันอังคาร (17 ต.ค.)
อย่างไรก็ตาม ผลการวิเคราะห์ของคณะทำงาน ณ สำนักข่าวอัลจาซีราห์ของกาตาร์และชาแนล 4 เครือข่ายโทรทัศน์ของสหราชอาณาจักร ที่ได้ทำการศึกษาคลิปวิดีโอของเหตุการณ์ดังกล่าว สรุปว่าแสงวาบดังกล่าวไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่ตามมาหลังจากนั้น ณ โรงพยาบาลอัล-อาห์ลี โดยที่อัลจาซีราห์ เน้นย้ำว่า ข้อเท็จจริงคือ แสงวาบดังกล่าวสอดคล้องกับระบบป้องกันขีปนาวุธ "ไอรอนโดม" ที่กำลังสกัดขีปนาวุธลูกหนึ่งจากฉนวนกาซาและทำลายมันกลางอากาศ มากกว่า
ในวิดีโอที่ 2 ซึ่งบันทึกใกล้กับจุดระเบิด ได้ยินเสียงจรวดหรือขีปนาวุธลูกหนึ่งกำลังพุ่งแหวกอากาศ ก่อนตกกระทบโรงพยาบาล ทาง Earshot ได้ทำการศึกษาคลิปนี้และพบว่าความถี่ของจรวดที่พุ่งเข้ามา บ่งชี้ว่ามันพุ่งเข้าหาโรงพยาบาลจากทางตะวันออกเฉียงเหนือ ทางตะวันออกหรือไม่ก็ทางตะวันออกเฉียงใต้ สวนทางกับคำกล่าวอ้างของอิสราเอล ที่อ้างว่ามันพุ่งมาจากทางทิศตะวันตก
Forensic Architecture สนับสนุนผลการตรวจสอบของ Earshot เน้นย้ำว่าจรวดดังกล่าวมีความเป็นไปได้ว่าน่าจะมาจากทิศของฝั่งอิสราเอล และจากการวิเคราะห์เพิ่มเติมหลุมจุดตก ณ โรงพยาบาล มันชี้ว่าจรวดน่าจะพุ่งมาจากทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ตามหลังเหตุระเบิด ฮานานยา นาฟตาลี ที่ปรึกษารัฐบาลอิสราเอล เขียนบนแฟลตฟอร์มเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) ว่า "กองทัพอากาศอิสราเอลโจมตีฐานที่มั่นก่อการร้ายฮามาส ภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกาซา" ก่อนลบโพสต์ดังกล่าวออกไปในอีกไม่กี่นาทีต่อมา
แต่กระนั้น ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เลือกยืนเคียงข้างอิสราเอลในเหตุการณ์นี้ ผิดกับโลกอาหรับที่กล่าวโทษอิสราเอลว่าเป็นผู้ร้าย "ทุกคนที่นี่เชื่อว่าอิสราเอลคือผู้อยู่เบื้องหลังมัน" อายมาน ซาฟาดี รัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดนบอกกับซีเอ็นเอ็นในวันพุธ (18 ต.ค.) "กองทัพอิสราเอลบอกว่าพวกเขาไม่ได้ทำ แต่ลองหาใครสักคนในโลกนี้ทีที่เชื่อในคำกล่างอ้างดังกล่าว"
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์/อัลจาซีราห์/ชาแนล4)