“สีจิ้นผิง”ลั่นสัมพันธภาพปักกิ่ง-มอสโกลึกซึ้งแนบแน่นยิ่งขึ้นทุกขณะ ระหว่างพบหารือกับ “ปูติน” ที่เดินทางไปร่วมเวทีประชุมหนึ่งแถบ-หนึ่งเส้นทาง ณ เมืองหลวงของจีน ขณะเดียวกันประมุขแดนมังกรยังเหน็บตะวันตกที่พยายามตัดขาดกับเศรษฐกิจจีนอย่างเจ็บแสบ โดยบอกว่า ชีวิตคงไม่ดีขึ้นและการพัฒนาคงไม่เร็วขึ้น ถ้ามัวแต่มองการพัฒนาของชาติอื่นเป็นภัยคุกคาม และมองความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจเป็นความเสี่ยง
ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัวของทางการจจีน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวระหว่างพบหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เมื่อวันพุธ (18 ต.ค.) ว่า ความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างจีนและรัสเซียมีความแนบแน่นลึกซึ้งยิ่งขึ้นทุกขณะ นอกจากนั้น สี ยังชี้ว่า ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ตนพบกับผู้นำรัสเซียถึง 42 ครั้ง และสองประเทศได้พัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีและมิตรภาพที่ลึกซึ้งระหว่างกัน
ทั้งนี้ ปูตินถือเป็นแขกที่ได้รับการจับตามากที่สุดในการประชุมสุดยอดเนื่องในวาระครบรอบ 10 ปีแผนการริเริ่มหนึ่งแถบ-หนึ่งเส้นทาง (บีอาร์ไอ) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง ขณะที่การเยือนจีนครั้งนี้ของเขา ก็ถือเป็นการเยือนประเทศระดับมหาอำนาจครั้งแรกของ
เขานับแต่สงครามยูเครนเปิดฉากขึ้น
ประมุขแดนมังกรยังเรียกร้องให้จีนและรัสเซียร่วมกันปกป้องความเป็นกลางและความยุติธรรมระหว่างประเทศ
จีนเป็นประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดของรัสเซียในเวลานี้ โดยเมื่อปีที่แล้วมีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงสุดถึง 190,000 ล้านดอลลาร์ และเมื่อวันพุธสีเสนอผลักดันเป้าหมายใหม่ในการเพิ่มมูลค่าการค้าสองประเทศเป็น 200,000 ล้านดอลลาร์
ปักกิ่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืน แม้ถูกฝ่ายตะวันตกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเรื่องยืนกรานใช้ท่าทีเป็นกลาง และปฏิเสธไม่ประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
ทางด้าน ปูติน ได้กล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการเจรจาหารือกับ สี ซึ่งถือเป็นการประชุมข้างเคียงเวทีหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางคราวนี้ โดยบอกว่า ความปั่นป่วนผันผวนในระดับโลกที่กำลังเกิดขึ้น เป็นตัวนำเอาจีนและรัสเซียเข้ามาใกล้ชิดกันและร่วมมือกันมากยิ่งขึ้น และตัวเขา “มองการณ์ในแง่ดี” เกี่ยวกับอนาคตของความสัมพันธ์นี้
ก่อนหน้าหารือทวิภาคีกับปูติน สี ได้กล่าวปราศรัยเปิดการประชุมหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ซึ่งตัวเขาเองเป็นผู้ริเริ่ม โดยมีเป้าหมายในการสร้างเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานระดับโลกที่เชื่อมต่อเอเชียกับแอฟริกาและยุโรปผ่านเส้นทางทั้งทางบกและทางน้ำ โดยย้ำว่า แผนการริเริ่มนี้กลายร่างจากพิมพ์เขียวเป็นโครงการจริงที่จับต้องได้ในขณะนี้
สียังกล่าวกับผู้แทนจำนวนกว่า 1,000 คน จากกว่า 130 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากชาติกำลังพัฒนาหรือที่ปัจจุบันนิยมเรียกขานกันว่า “ซีกโลกใต้” โดยย้ำว่า จีนต่อต้านการใช้มาตรการแซงก์ชันคว่ำบาตรตามอำเภอใจฝ่ายเดียว, การข่มขู่ทางเศรษฐกิจ, การหย่าร้างตัดขาดกันทางเศรษฐกิจ, และการขัดขวางห่วงโซ่อุปทาน
ผู้นำจีนเหน็บความพยายามของตะวันตกในการลดการพึ่งพิงเศรษฐกิจแดนมังกรโดยกล่าวว่า ชีวิตคงไม่ดีขึ้นและการพัฒนาคงไม่เร็วขึ้น ถ้ามัวแต่มองการพัฒนาของชาติอื่นเป็นภัยคุกคาม และมองความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจเป็นความเสี่ยง
สีสำทับว่า บีอาร์ไอจะเป็นแรงกระตุ้นใหม่ๆ สำหรับเศรษฐกิจโลก
ทางด้านปูตินที่กล่าวปราศรัยต่อจากสี ได้ยกย่องบีอาร์ไอว่า ประสบความสำเร็จเกินคาด พร้อมชักชวนทั่วโลกลงทุนในเส้นทางทะเลเหนือซึ่งเขามองว่า อาจส่งเสริมการค้าระหว่างตะวันออกกับตะวันตกมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ระหว่างที่ปูตินขึ้นเวที เจ้าหน้าที่จากหลายชาติในยุโรปพากันเดินออกจากห้องประชุม
อนึ่ง ระหว่างงานเลี้ยงรับรองผู้เข้าร่วมประชุมอย่างเป็นทางการ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อคืนวันอังคาร (17) สี กล่าวปราศรัยพาดพิงถึงสถานการณ์ความขัดแย้งปัจจุบันว่า แนวโน้มสันติภาพเป็นสิ่งที่ไม่อาจหยุดยั้งได้
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)