xs
xsm
sm
md
lg

กาซาใกล้พังทลายทุกๆ ด้าน! ผู้คนนับล้านสิ้นหวัง ความช่วยเหลือถูกปิดกั้น-อิสราเอลยังตามถล่มไม่เลิก (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชายชาวปาเลสไตน์อุ้มเด็ก วิ่งมุ่งหน้าไปยังรถที่รออยู่ ภายหลังการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลใส่เมืองราฟาห์ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฉนวนกาซาเมื่อวันอังคาร (17 ต.ค.)
ขบวนรถลำเลียงความช่วยเหลือจอดนิ่งตรงชายแดนอียิปต์ที่ติดต่อกับฉนวนกาซา ขณะที่ประชาชนชาวปาเลสไตน์เรือนล้านในดินแดนแห่งนี้ ตลอดจนกลุ่มเคลื่อนไหวด้านมนุษยธรรมร้องขอน้ำ อาหาร และเชื้อเพลิงสำหรับใช้กับเครื่องปั่นไฟที่ใกล้หยุดทำงาน พร้อมเตือนว่ากาซาที่ถูกกองทัพอิสราเอลสั่งปิดล้อมแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ด้วยเหตุผลว่าเพื่อตอบโต้การโจมตีของฮามาส กำลังอยู่ในสภาพใกล้พังทลายในทุกๆ ด้าน




โรงพยาบาลแห่งต่างๆ ทั่วทั้งกาซา กำลังจะไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตผู้ป่วยนับพันๆ คน ขณะที่ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อยหลายแสนคนตกอยู่ในสภาพต้องทิ้งบ้านเรือน หนีตายจากตอนเหนือของกาซาลงมาทางด้านใต้ตามคำสั่งของฝ่ายทหารอิสราเอล โดยที่กองทัพรัฐยิวยังคงโจมตีทางอากาศและถล่มด้วยจรวดและปืนใหญ่ใส่บริเวณต่างๆ ทั้งทางตอนเหนือและตอนใต้ของฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประกาศเตรียมยกกำลังบุกภาคพื้นดินเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาสให้สิ้นซากในเร็วๆ นี้ โดยที่พวกนักรบฮามาสยังมีการยิงจรวดโจมตีเข้าใส่ดินแดนอิสราเอลอยู่เช่นกัน นอกจากนั้น ยังมีความตึงเครียดมากขึ้นใกล้ๆ ชายแดนอิสราเอล-เลบานอน ทำให้กังวลกันว่าอาจเกิดการสู้รบขึ้นมาเป็นแนวรบที่ 2

หลังจากอิสราเอลปิดล้อมกาซามากว่าสัปดาห์ เวลานี้ทั่วโลกพุ่งความสนใจไปที่ด่านราฟาห์ ทางตอนใต้สุดของกาซา ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนเพียงจุดเดียวที่เชื่อมกาซากับดินแดนของประเทศซึ่งไม่ใช่อิสราเอล นั่นคืออียิปต์ โดยบรรดาผู้ไกล่เกลี่ยต่างพยายามหาทางให้สามารถทำข้อตกลงหยุดยิง เพื่อจะได้ลำเลียงความช่วยเหลือเข้าสู่กาซาและช่วยเหลือชาวต่างชาติที่ยังตกค้างอยู่ออกมา ทว่าการโจมตีไม่ขาดสายของอิสราเอลทำให้อียิปต์ยังต้องปิดจุดผ่านแดนนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และจนถึงวันจันทร์ (16 ต.ค.) ยังคงไม่มีความชัดเจนว่าฝ่ายใดที่พยายามขัดขวางไม่ให้เปิดด่านแห่งนี้

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่บินกลับไปยังอิสราเอลอีกรอบในวันจันทร์ หลังตระเวนคุยกับพวกผู้นำของ 6 ชาติอาหรับ ระบุว่า อเมริกาและอิสราเอลได้ตกลงพัฒนาแผนการเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสามารถเข้าถึงพลเรือนในกาซา ทั้งนี้ ยังไม่มีการเผยรายละเอียดของแผนการที่ว่านี้ แต่บลิงเคนกล่าวว่าจะรวมถึงการสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับพลเรือน

บลิงเคนสำทับว่า อเมริกาเห็นด้วยกับอิสราเอลว่า ฮามาสอาจยึดและทำลายความช่วยเหลือที่ส่งเข้าไปในกาซา หรือขัดขวางไม่ให้ประชาชนเข้าถึงความช่วยเหลือ

ขณะเดียวกัน สหประชาชาติระบุว่า การโจมตีทางอากาศของฝ่ายอิสราเอล ประกอบกับเสบียงและข้าวของเครื่องใช้จำเป็นที่ใกล้หมด รวมทั้งคำสั่งอพยพใหญ่ของอิสราเอลออกจากด้านเหนือของฉนวนกาซา ทำให้ดินแดนที่มีพลเมือง 2.3 ล้านคนแห่งนี้สับสนอลหม่านและหมดหวังมากขึ้นเรื่อยๆ ประมาณกันว่าประชาชนกว่า 1 ล้านคนต้องทิ้งบ้านเรือน และ 60% อพยพลงมาอัดแน่นอยู่ทางตอนใต้

ยูเอ็นยังคาดว่า เชื้อเพลิงสำหรับเครื่องปั่นไฟของโรงพยาบาลต่างๆ ในกาซาจะหมดลงใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า เท่ากับว่า อุปกรณ์ช่วยชีวิต เช่น ตู้อบและเครื่องช่วยหายใจจะหยุดทำงาน และทำให้ผู้ป่วยนับพันๆ ตกอยู่ในความเสี่ยง

เวลานี้ผู้คนในกาซาหาน้ำและอาหารยากขึ้นทุกที น้ำประปาที่แห้งเหือดทำให้หลายคนต้องดื่มน้ำสกปรกหรือน้ำเสีย ซึ่งเสี่ยงต่อการระบาดของโรค

องค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) เผยว่า มีประชาชนกว่า 400,000 คนที่อพยพลงใต้ อัดแน่นอยู่ตามโรงเรียนและสถานที่อื่นๆ ของทางองค์กร ทว่า UNRWA ไม่สามารถจัดหาสิ่งของจำเป็นให้คนเหล่านั้นได้ เพราะลำพังเจ้าหน้าที่ขององค์กรเองยังมีน้ำดื่มวันละ 1 ลิตรต่อคน

ฟิลิป ลาซซารินี ข้าหลวงใหญ่ UNRWA เรียกร้องให้อิสราเอลยุติการปิดล้อมทันที

เอพีรายงานด้วยว่า ร้านขายขนมปังเพียงไม่กี่แห่งที่ยังเปิดขาย มีลูกค้าต่อคิวรอยาวเป็นหางว่าว หนึ่งในนั้นคืออาหมัด ซาลาห์ จากเมืองเดียร์ อัล-บาลาห์ ที่บอกว่า รอนาน 10 ชั่วโมงเพื่อให้ได้ขนมปัง 1 กิโลกรัมสำหรับสมาชิกครอบครัว 20-30 คน

ที่ด้านเหนือของกาซา พลเมืองที่ไม่รู้จำนวนแน่นอนยังคงติดค้างอยู่ทั้งโดยตั้งใจและทั้งที่ยังไม่สามารถหนีออกมาได้

UNRWA ระบุว่า มีประชาชน 170,000 คนหลบอยู่ในโรงเรียนต่างๆ ของยูเอ็น ตอนที่อิสราเอลประกาศให้อพยพ แต่คนเหล่านั้นไม่สามารถออกมาได้และไม่ทราบว่า ขณะนี้ยังอยู่หรือไม่ นอกจากนั้นยังมีพลเรือนกว่า 40,000 คนกระจุกอยู่ในและรอบๆ โรงพยาบาลอัล-ชีฟาในเมืองกาซาซิตี้ เนื่องจากหวังว่า จะปลอดภัยจากการทิ้งระเบิด

ขณะเดียวกัน แพทย์และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจำนวนมากปฏิเสธที่จะอพยพ เนื่องจากจะเท่ากับทิ้งให้ผู้ป่วยหนักและทารกแรกเกิดที่ใช้เครื่องช่วยหายใจต้องเสียชีวิต กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนเผยว่า เจ้าหน้าที่หลายคนตัดสินใจอยู่รักษาผู้บาดเจ็บ

ที่ด่านราฟาห์ทางฝั่งกาซา ชาวปาเลสไตน์สองสัญชาติจำนวนมากเฝ้ารออย่างกังวล บางคนพยายามกล่อมลูกน้อยที่ร้องไห้จ้า

“พวกเขาอ้างว่า เป็นประเทศพัฒนาแล้ว พร่ำพูดเรื่องสิทธิมนุษยชนตลอดเวลา จึงน่าจะปกป้องพลเมืองของตัวเองก่อน ไม่ใช่ทอดทิ้งให้เผชิญความทุกข์ยากตามลำพังแบบนี้” ชูรุค อัลคาเซนดาร์ ที่มีลูก 2 คนถือสัญชาติอเมริกัน พูดถึงสหรัฐอเมริกา

(ที่มา : เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น