สหรัฐฯ ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมการประชุมด้านความมั่นคงประจำปีที่กรุงปักกิ่งในช่วงปลายเดือนนี้ นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างกองทัพของ 2 ชาติมหาอำนาจ
สหรัฐฯ มีความกระตือรือร้นที่จะฟื้นฟูการติดต่อสื่อสารระหว่างกองทัพสหรัฐฯ และจีนซึ่งเป็นคู่แข่งทางยุทธศาสตร์ โดยแหล่งข่าวใกล้ชิด 3 คนให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า ปักกิ่งได้ส่งเทียบเชิญ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมด้านความมั่นคงนานาชาติ เซียงซาน ฟอรัม (Xiangshan Forum) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-31 ต.ค.
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าสหรัฐฯ จะไม่ส่งรัฐมนตรี ออสติน ไปร่วมการประชุมดังกล่าว ซึ่งปักกิ่งเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในสไตล์เดียวกับการประชุมแชงกรี-ลา ไดอะล็อก ที่สิงคโปร์
ก่อนหน้านี้ พล.อ.หลี่ ช่างฝู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของจีน เคยปฏิเสธที่จะหารืออย่างเป็นทางการกับ ออสติน ระหว่างที่ทั้ง 2 ฝ่ายเข้าร่วมประชุมแชงกรี-ลา ไดอะล็อก และหลังจากนั้นไม่นาน พล.อ.หลี่ ก็หายหน้าหายตาไปอย่างเป็นปริศนา
แม้คำเชิญของจีนอาจเป็นแค่การ “เชิญตามมารยาท” เพื่อกลบเสียงวิจารณ์ของสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวหาจีนว่าไม่พยายามฟื้นความร่วมมือทางทหาร หลังจากที่ตัดสัมพันธ์กันไปจนเกือบหมดจากกรณีที่ แนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ไปเยือนไต้หวันเมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่านี่อาจเป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่าปักกิ่งเองก็ปรารถนาที่จะลดความตึงเครียดกับสหรัฐฯ เช่นกัน
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยเมื่อไม่นานมานี้ว่า ขณะนี้ยังคงมีสัญญาณ “จำกัด” ว่าการสื่อสารระหว่างกองทัพจะได้รับการฟื้นฟู
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจีนเชิญใครไปร่วมประชุม หรือฝ่ายสหรัฐฯ เองคิดจะส่งใครไป ขณะที่สถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ก็ยังปฏิเสธที่จะให้รายละเอียด
เพนตากอนระบุในคำแถลงที่ส่งถึงรอยเตอร์ว่า ทางกระทรวง “มีความยินดีที่จะได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับคณะผู้แทนของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ในการประชุมเซียงซาน ฟอรัม เพื่อนำไปสู่การเปิดช่องทางสื่อสารและการสื่อสารในยามวิกฤตที่เชื่อถือได้”
“กระทรวงได้ตอบรับคำเชิญของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมประชุมเซียงซาน ฟอรัม โดยสหรัฐฯ จะส่งผู้แทนในระดับเดียวกับที่เคยทำมาในอดีต”
ในปี 2019 ซึ่งเป็นปีล่าสุดที่จีนจัดการประชุม เซียงซาน ฟอรัม สหรัฐฯ ได้ส่ง ชาด สบราเกีย (Chad Sbragia) ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมไปเข้าร่วมการประชุม ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดเท่าที่อเมริกาเคยส่งไป จากเดิมที่สหรัฐฯ มักจะส่งแค่ทูตทหารไปเท่านั้น
ที่มา : รอยเตอร์
