ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียระบุวานนี้ (10 ต.ค.) ว่าการสู้รบครั้งรุนแรงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสสะท้อนให้เห็นว่านโยบายที่สหรัฐฯ มีต่อภูมิภาคตะวันออกกลางนั้น “ล้มเหลว” อีกทั้งอเมริกาก็ไม่เคยใส่ใจความต้องการของชาวปาเลสไตน์
ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกของปูติน ระบุว่า ทำเนียบเครมลินได้มีการประสานพูดคุยกับคู่ขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่าย และพร้อมจะเข้าไปมีบทบาทช่วยยุติความขัดแย้ง แต่ไม่บอกว่าจะทำอย่างไร
เปสคอฟ ยังเตือนด้วยว่า สงครามครั้งนี้มีความเสี่ยงที่จะแผ่ขยายลุกลามไปยังภูมิภาคอื่น
ด้านผู้นำรัสเซียถือโอกาสในการพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรี โมฮัมเหม็ด เชีย อัล-ซูดานี แห่งอิรัก กล่าวโทษสถานการณ์ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงในตะวันออกกลางว่าเกิดจากนโยบายของสหรัฐฯ เป็นต้นเหตุ
“ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะคิดตรงกับผมว่า นี่คือตัวอย่างความล้มเหลวของนโยบายที่สหรัฐฯ มีต่อตะวันออกกลาง” ปูติน กล่าว
ผู้นำหมีขาวชี้ว่า สหรัฐฯ พยายาม “ผูกขาด” กลไกสันติภาพ และไม่แสวงหาแนวทางประนีประนอมที่ปฏิบัติได้จริง นอกจากนี้ยังมองข้ามผลประโยชน์และความปรารถนาอันแรงกล้าของชาวปาเลสไตน์ที่ต้องการมีรัฐอิสระของตนเอง
อย่างไรก็ดี ปูติน ไม่ได้เอ่ยถึงบทบาทของรัสเซียในกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลาง ซึ่งอันที่จริงแล้วรัสเซียได้จับมือกับสหรัฐฯ องค์การสหประชาชาติ และสหภาพยุโรป จัดตั้งกลุ่ม ‘Quartet’ ขึ้นในปี 2002 เพื่อทำหน้าที่เจรจาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์
อิสราเอลส่งสัญญาณเตรียมพร้อมยกระดับโจมตีกลุ่มฮามาสด้วยปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดิน ขณะที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศหนุนหลังอิสราเอลเต็มที่ พร้อมฝากคำเตือนไปถึงมหาอำนาจรายอื่นๆ ที่อาจกำลังคิด “ฉวยโอกาส” จากสถานการณ์ความขัดแย้งครั้งนี้
รัสเซียยืนยันที่จะใช้การทูตแก้ปัญหา โดยทำเนียบเครมลินเผยว่า ปูติน ได้หารือกับประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี และผู้นำทั้งสองต่างแสดงความเสียใจที่เหตุสู้รบครั้งนี้ “ทำให้พลเรือนบาดเจ็บล้มตายกันเป็นจำนวนมาก” ขณะที่ เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียก็ได้พูดคุยกับ ฮอสเซน อามีร์-อับดุลลาไฮน์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันผลักดันข้อตกลงหยุดยิงโดยเร็วที่สุด
ตั้งแต่การสู้รบเริ่มปะทุขึ้นเมื่อวันเสาร์ (7) รัสเซียพยายามวางตัวเป็นกลางเพื่อที่จะรักษาสายสัมพันธ์อันดีกับทุกฝ่าย
เป็นที่เชื่อกันว่ารัสเซียใช้โดรนที่ผลิตในอิหร่านทำสงครามกับยูเครน และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับปาเลสไตน์มายาวนาน รวมถึงกลุ่มฮามาสซึ่งเคยส่งผู้แทนไปเยือนมอสโกเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
กระนั้นก็ตาม เปสคอฟ ย้ำว่ารัสเซียก็มี “จุดร่วม” กับอิสราเอลหลายอย่างด้วยเหมือนกัน รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่าทหารอิสราเอลจำนวนไม่น้อยเคยเป็นพลเมืองรัสเซียมาก่อน
ที่มา : รอยเตอร์