ทีมค้นหาอินเดียยังคงเผชิญความยากลำยากในการเข้าถึงพื้นที่น้ำท่วมในรัฐสิกขิมทางตอนเหนือของอินเดีย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุทะเลสาบธารน้ำแข็งแตกจนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันเพิ่มเป็นอย่างน้อย 44 ราย และยังมีผู้สูญหายอีกกว่า 140 คน
ฝนซึ่งตกลงมาอย่างหนักและหิมะถล่มทำให้ทะเลสาบธารน้ำแข็งโลนัค (Lhonak Lake) บนเทือกเขาหิมาลัยเอ่อล้นตลิ่งในวันพุธ (4 ต.ค.) ส่งผลให้มวลน้ำมหาศาลไหลหลากจากภูเขาลงสู่ระบบแม่น้ำทีสตาร์ (Teestar) และเอ่อเข้าท่วมชุมชน
“ต้องรอให้สภาพอากาศดีขึ้นกว่านี้ กองทัพอากาศและทีมกู้ภัยจึงจะสามารถเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยได้” วี.บี.ปาธัก เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารระดับสูงของรัฐสิกขิมให้สัมภาษณ์วันนี้ (7 ต.ค.)
เจ้าหน้าที่รัฐซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลภารกิจกู้ภัยจากเมืองกังต็อก (Gangtok) เมืองเอกของรัฐสิกขิม ระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยครั้งเลวร้ายเพิ่มขึ้นอีก 2 รายจากวันศุกร์ (6) มาอยู่ที่ 44 ราย
เจ้าหน้าที่ค้นหาและช่วยชีวิตหลายร้อยนายถูกเรียกระดมเข้าไปยังรัฐสิกขิม และพื้นที่ตอนเหนือของรัฐเบงกอลตะวันตก ขณะที่ชุมชนริมฝั่งแม่น้ำยังได้รับคำเตือนให้เฝ้าระวังขั้นสูงสุด
ในบรรดาผู้สูญหายมีบุคลากรของกองทัพอินเดียรวมอยู่ด้วย 15 นาย ขณะที่นักท่องเที่ยวประมาณ 2,000 คนซึ่งกระจุกตัวอยู่ที่เมืองลาชุง (Lachung) ลาเชน (Lachen) และชุงทุง (Chungthung) ทางตอนเหนือของรัฐสิกขิมมีรายงานว่ายังปลอดภัยดี โดยกองทัพอินเดียได้เปิดให้บริการโทรศัพท์ผ่านดาวเทียม เพื่อให้พวกเขาสามารถติดต่อกับครอบครัวได้
อุทกภัยครั้งนี้ถูกยกให้เป็นหนึ่งในภัยธรรมชาติครั้งเลวร้ายที่สุดของรัฐสิกขิมในรอบกว่า 50 ปี โดยนักวิทยาศาสตร์เตือนว่านี่คือผลลัพธ์ล่าสุดจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศซึ่งกำลังก่อหายนะเป็นวงกว้างต่อภูมิประเทศของเทือกเขาหิมาลัย
ที่มา : รอยเตอร์