เมืองคาร์คิฟ (Kharkiv) ทางตะวันออกของยูเครนเตรียมสร้าง “โรงเรียนใต้ดิน” แห่งแรกของประเทศ เพื่อปกป้องนักเรียนให้ปลอดภัยจากขีปนาวุธและระเบิดท่ามกลางสถานการณ์สงครามกับรัสเซีย
อิฮอร์ เทเรคอฟ นายกเทศมนตรีเมืองคาร์คิฟ ประกาศผ่านแอปเทเลแกรมว่า “สถานที่หลบภัยลักษณะนี้จะช่วยให้เด็กนักเรียนหลายพันคนในคาร์คิฟสามารถไปเรียนหนังสือได้อย่างปลอดภัย ท่ามกลางความเสี่ยงจากขีปนาวุธ”
แม้โรงเรียนในพื้นที่แนวหน้าของยูเครนจะถูกปรับไปทำการเรียนการสอนออนไลน์เสียเป็นส่วนใหญ่ ทว่าเมืองคาร์คิฟเลือกใช้พื้นที่ตามสถานีรถไฟใต้ดินจัดเป็นห้องเรียนราว 60 ห้อง ก่อนจะเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ในวันที่ 1 ก.ย. ซึ่งจะช่วยสร้างพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ให้แก่เด็กๆ ได้มากกว่า 1,000 คน
คาร์คิฟซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครนเคยมีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 1.4 ล้านคน ก่อนที่รัสเซียจะเริ่มเปิดศึกรุกรานยูเครนเมื่อเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว
เนื่องจากบางพื้นที่ของคาร์คิฟอยู่ห่างชายแดนรัสเซียไม่ถึง 35 กิโลเมตร ประชาชนจึงต้องเสี่ยงภัยจากจรวดและขีปนาวุธอยู่แทบทุกวัน ซึ่งการโจมตีส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นรวดเร็วจนพลเรือนหาที่หลบไม่ทัน
สงครามรัสเซีย-ยูเครนซึ่งลากยาวมานานถึง 19 เดือนโดยไม่มีวี่แววว่าจะจบลงง่ายๆ ได้คร่าชีวิตพลเรือนไปแล้วหลายพันคน และยังมีชาวยูเครนอีกนับล้านๆ ที่ต้องกลายเป็นคนพลัดถิ่น
กระทรวงการศึกษายูเครนระบุว่า สงครามครั้งนี้ส่งผลให้สถาบันการศึกษา 363 แห่งในยูเครนถูกทำลายสิ้นเชิง และได้รับความเสียหายอีกเกือบ 3,800 แห่งทั่วประเทศ
เทเรคอฟ ยืนยันว่า โรงเรียนแห่งใหม่นี้ “จะยึดหลักมาตรฐานโครงสร้างป้องกันแบบสมัยใหม่” แต่ยังไม่ระบุว่าจะมีขนาดใหญ่โตแค่ไหน และจะสามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้จริงๆ เมื่อใด
ที่มา : รอยเตอร์
