รอยเตอร์ - ไบเดนเตรียมเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำประเทศในแถบหมู่เกาะแปซิฟิกในสัปดาห์นี้ อันเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการหว่านเสน่ห์เพื่อขัดขวางจีนแผ่ขยายอิทธิพลสู่ภูมิภาคดังกล่าวที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ และวอชิงตันถือเป็นสนามหลังบ้านของตัวเอง
ระหว่างการประชุม 3 วัน อเมริกาจะประกาศการยอมรับทางการทูตเกาะสองแห่ง ให้สัญญาสนับสนุนเงินทุนก้อนใหม่ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่รวมถึงการปรับปรุงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเคเบิลใต้ทะเล
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จัดการประชุมสุดยอดกับเหล่าผู้นำในแปซิฟิกครั้งแรกที่ทำเนียบขาวเมื่อปีที่แล้ว และมีกำหนดพบกับผู้นำเหล่านั้นอีกครั้งที่นิวกินีเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ต้องยกเลิกไปเนื่องจากวิกฤตเพดานหนี้ที่ทำให้ไบเดนต้องยุติทริปเยือนเอเชียก่อนกำหนด
ในซัมมิตปีที่แล้วกับผู้นำ 14 ชาติในแปซิฟิก คณะบริหารของไบเดนให้สัญญาช่วยปกป้องประเทศเหล่านี้จากการข่มขู่ทางเศรษฐกิจ และออกแถลงการณ์ร่วมระบุถึงการกระชับการเป็นหุ้นส่วน และวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันสำหรับภูมิภาคที่ “ประชาธิปไตยจะสามารถเบ่งบาน”
สำหรับปีนี้ทำเนียบขาวเผยว่า จะมุ่งเน้นเป้าหมายสำคัญ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาที่ยั่งยืน สาธารณสุข และการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย แถมสหรัฐฯ ยังจะประกาศยอมรับหมู่เกาะคุก และนีอูเออย่างเป็นทางการครั้งแรกในระหว่างซัมมิต
อเมริกามีกำหนดนำผู้นำแปซิฟิกไปชมเรือตรวจการณ์ของหน่วยยามฝั่งที่บัลติมอร์ในวันอาทิตย์ (24 ก.ย.) และฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับการปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมายจากผู้บัญชาการหน่วยยามฝั่ง
วันเดียวกันนั้น เหล่าผู้นำจะร่วมชมการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลระหว่างทีมบัลติมอร์เรฟเวนส์กับอินเดียนาโปลิสโคลต์ส ทั้งนี้ ผู้เล่นลีกอเมริกันฟุตบอลระดับอาชีพของอเมริกา (เอ็นเอฟแอล) นับสิบคนมีเชื้อสายชาวเกาะแปซิฟิก
เจ้าหน้าที่คณะบริหารอาวุโสของไบเดนแสดงความผิดหวังที่นายกรัฐมนตรีมานาสเซห์ โซกาแวร์ ของหมู่เกาะโซโลมอน ที่กระชับความสัมพันธ์กับจีน งดเข้าร่วมซัมมิต โดยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โซกราแวร์เดินทางเยือนจีนและประกาศทำข้อตกลงด้านตำรวจกับปักกิ่งที่อิงกับข้อตกลงความมั่นคงที่ลงนามไปเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ดูเหมือนวอชิงตันไร้ความคืบหน้าในการเสนอการอัดฉีดโครงสร้างพื้นฐานและเพิ่มความช่วยเหลือให้โซโลมอน แม้ว่าในปีที่ผ่านมาทำเนียบขาวระบุว่า อเมริกาจะลงทุนในการขยายโครงการช่วยเหลือหมู่เกาะแปซิฟิกกว่า 180 ล้านดอลลาร์
เม็ก คีน ผู้อำนวยการโครงการหมู่เกาะแปซิฟิกของสถาบันโลวีของออสเตรเลีย ชี้ว่า แม้อเมริกาเปิดสถานทูตและสำนักงานขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (ยูเสด) แห่งใหม่ๆ ในภูมิภาคแปซิฟิกนับจากซัมมิตปีที่แล้ว แต่คองเกรสยังไม่ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือประเทศเหล่านี้เลย
เธอยังบอกว่า แม้ประเทศในแปซิฟิกยินดีที่อเมริกากลับมามีส่วนร่วมในภูมิภาค แต่ก็ไม่ต้องการให้การต่อสู้ทางภูมิรัฐศาสตร์กลายเป็นสถานการณ์ทางการทหาร
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีซาโต คิลมาน ของวานูอาตู จะไม่ไปร่วมประชุมสุดยอดเช่นเดียวกัน คิลมานเพิ่งได้รับเลือกจากสมาชิกสภานิติบัญญัติเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วเพื่อให้รับตำแหน่งแทนอิชมาเอล คาลซาคาว ที่พ่ายมติไม่ไว้วางใจจากการดำเนินการหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงการลงนามข้อตกลงความมั่นคงกับออสเตรเลียที่เป็นพันธมิตรของอเมริกา
ขณะนี้อเมริกายังคงเจรจาเพื่อเปิดสถานทูตในวานูอาตู แต่ไม่ได้เพิ่มการมีส่วนร่วมในประเทศนี้ที่พึ่งพิงจีนในฐานะเจ้าหนี้ต่างชาติรายใหญ่ที่สุด เดือนที่แล้วจีนยังส่งผู้เชี่ยวชาญด้านตำรวจไปวานูอาตู และลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับตำรวจ
ด้านฟิจิยินดีที่อเมริกาเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นซึ่งทำให้แปซิฟิกปลอดภัยมากขึ้น แต่สำหรับคิริบาส ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศเกาะในแปซิฟิกที่ห่างไกลที่สุด เผยว่า มีแผนยกระดับทางวิ่งของเครื่องบินสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยได้รับความช่วยเหลือจากจีน
ขณะเดียวกัน อเมริกาต่ออายุข้อตกลงกับปาเลา และไมโครนีเซีย เพื่อให้ได้สิทธิพิเศษในการเข้าถึงทางทหารในพื้นที่ยุทธศาสตร์ในแปซิฟิก แต่ยังไม่ได้ต่ออายุข้อตกลงเดียวกันนี้กับหมู่เกาะมาร์แชลที่ต้องการเงินเพิ่มจากกรณีการทดสอบนิวเคลียร์ของอเมริกาในช่วงทศวรรษ 1940 และ 1950