ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจด้านความมั่นคงของรัสเซียเผยได้รับคำสั่งจากรัฐบาลให้ผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าตัว เพื่อนำไปใช้ทำสงครามกับยูเครน โดยเฉพาะในส่วนของขีปนาวุธ โดรน ยานเกราะโจมตี และกระสุนพิสัยไกลต่างๆ
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ได้สั่งเพิ่มกำลังการผลิตอาวุธขนานใหญ่เพื่อให้มั่นใจว่ามอสโกจะบรรลุซึ่งเป้าหมายของ “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ในยูเครน แม้จะต้องสู้กับชาติตะวันตกที่แห่ประเคนอาวุธช่วยยูเครนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรที่บั่นทอนเศรษฐกิจรัสเซียอย่างหนักหน่วงก็ตาม
เบคาน โอซโดเอฟ (Bekhan Ozdoev) ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมของ Rostec รัฐวิสาหกิจด้านความมั่นคงที่ควบคุมการผลิตอาวุธส่วนใหญ่ในรัสเซีย ระบุวันนี้ (19 ก.ย.) ว่า กำลังการผลิตอาวุธหลายประเภทเพิ่มขึ้นระหว่าง 2-10 เท่าตัว และสำหรับอาวุธหนักบางชนิดก็เพิ่มถึง “หลายสิบเท่า”
ผู้บริหารรายนี้ยอมรับว่า รัสเซียมีการผลิตอาวุธจำพวกรถถัง ยานเกราะ เครื่องยิงจรวด กระสุนพิสัยไกล ขีปนาวุธพิสัยใกล้ Inkander ขีปนาวุธชนิดยิงจากพื้นดินสู่อากาศพิสัยปานกลาง Pantsir และขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก Kinzhal เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
Rostec อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ เซียร์เก เชเมซอฟ (Sergei Chemezov) หนึ่งในพันธมิตรใกล้ชิดของปูติน มีหน่วยงานภาคพลเรือนและกลาโหมอยู่ใต้สังกัดประมาณ 800 แห่ง และปัจจุบันถือเป็นผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า Rostec ถือได้ว่าเป็น “รากฐาน” ของการป้องกันประเทศ อุตสาหกรรม เทคโนโลยี และภาคการผลิตต่างๆ ของรัสเซีย
ที่มา : รอยเตอร์