ปีเตอร์ ซิยาร์โท รัฐมนตรีต่างประเทศฮังการี ระบุว่า ยุโรปกำลังกลายเป็นตัวตลกบนเวทีโลก และกำลังทำลายตนเองด้วยการสนับสนุนยูเครนรวมทั้งการคว่ำบาตรรัสเซีย พร้อมเน้นย้ำจุดยืนของรัฐบาลของเขาที่ว่าความขัดแย้งในยูเครนต้องจบลงอย่างทันทีทันใด
ซิยาร์โท บอกกับพวกผู้ฟัง ณ งานเทศกาลทางการเมืองหนึ่งเมื่อวันเสาร์ (26 ส.ค.) "มันคงเป็นคำโอ้อวดที่พิสดารและขีดเขียนเกินจริง ที่อ้างว่ามาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซียประสบความสำเร็จในการฉีกเศรษฐกิจรัสเซียเป็นชิ้นๆ" เขากล่าว "นโยบายคว่ำบาตรประสบความล้มเหลว ทุกหนทุกแห่งในโลก กำลังหัวเราะเยาะนโยบายคว่ำบาตรของยุโรป"
อียูกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซีย ต่อเนื่องกันแล้ว 11 รอบ นับตั้งแต่มอสโกเปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน โดยแม้ โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู จะกล่าวอ้างเมื่อวันเสาร์ (26 ส.ค.) ว่ามาตรการคว่ำบาตรก่อผลกระทบหนักหน่วงและจับต้องได้ทั่วเศรษฐกิจรัสเซีย แต่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประมาณการว่าเศรษฐกิจรัสเซียจะยังคงเติบโต 0.7% ในปีนี้และ 1.3% ในปี 2024
ในทางกลับกัน อ้างอิงจากข้อมูลของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) พบว่าเศรษฐกิจยูโรโซนเข้าสู่ภาวะถดถอยไปแล้วก่อนหน้านี้ในปีนี้ หลังทางกลุ่มสมัครใจตัดขาดตัวเองจากรัสเซีย ชาติผู้จัดหาพลังงานรายใหญ่ที่สุดของพวกเขา และด้วยที่ปัญหาขาดแคลนพลังงานกำลังส่งผลกระทบโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลผลิตทางอุตสาหกรรมของเยอรมนี รัสเซียได้แซงหน้าเยอรมนี กลายมาเป็นชาติเศรษฐกิจใหญ่สุดอันดับ 5 ของโลกเมื่อปีที่แล้ว
ซิยาร์โท ชี้ว่าพวกผู้นำยุโรปอ้าแขนรับมาตรการคว่ำบาตรที่ทำร้ายตนเอง เพราะว่าพวกเขาอยู่ใน "โรคจิตเภทเกี่ยวกับสงครามประเภทหนึ่ง" พร้อมระบุความช่วยเหลือด้านการทหารที่อียูมอบให้แก่เคียฟ ยังหันกลับมาเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของทวีปแห่งนี้เสียเอง
นายกรัฐมนตรีวิคเตอร์ ออร์บาน แห่งฮังการี ไม่อนุญาตให้ตะวันตกส่งมอบอาวุธผ่านดินแดนฮังการีเข้าไปยูเครน และซิยาร์โท เน้นย้ำจุดยืนคัดค้านอียูที่เคลื่อนไหวเพิ่มงบประมาณสำหรับจัดหาอาวุธแก่เคียฟ ทั้งนี้แม้ฮังการี เป็นส่วนหนึ่งของแพกเกตคว่ำบาตรของอียูทั้งหมด แต่ ออร์บาน สามารถเจรจาต่อรองจนได้รับข้อยกเว้นสำหรับฮังการี ในการยังคงนำเข้าน้ำมันและเชื้อเพลิงนิวเคลียร์จากรัสเซีย แลกกับการสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรเหล่านั้น
ออร์บาน และซิยาร์โท ต่างเน้นย้ำเสียงเรียกร้องให้หยุดยิงในยูเครนในทันที โดยชี้ว่า เคียฟ ไม่อาจหวังเอาชนะรัสเซียในสนามรบ พร้อมบอกว่าในท้ายที่สุดแล้ว ยูเครนจะต้องเผชิญความขัดแย้งที่ยืดเยื้อยาวนานและความเสี่ยงที่สถานการณ์จะลุกลามปลายมากยิ่งขึ้น
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)