xs
xsm
sm
md
lg

จ่อปิดตำนานเปิบพิสดาร! ส.ส.เกาหลีใต้เล็งเสนอกฎหมายห้ามกิน 'เนื้อสุนัข'

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของเกาหลีใต้ กำลังมีแผนเสนอร่างกฎหมายซึ่งมีเป้าหมายห้ามจำหน่ายและบริโภคเนื้อสุนัข ประเพณีเก่าแก่อายุหลายร้อยปีอันเป็นที่ถกเถียง ซึ่ง ณ เวลานี้ยังไม่มีการแบนหรือกำหนดให้เป็นสิ่งผิดกฎหมายใดๆ

สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกเสนอโดยพรรคเดโมแครต ปาร์ตี พรรคฝ่ายค้านหลักเมื่อวันพฤหัสบดี (14 ก.ย.) และเรียกเสียงสนับสนุนในทันทีจากพรรคพีเพิล พาวเวอร์ ปาร์ตี พรรครัฐบาล ซึ่งเท่ากับว่าจะมีคะแนนเสียงมากพอสำหรับโหวตผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้

ปาร์ก แด-ชุล ประธานคณะกรรมการด้านนโยบายของพรรครัฐบาล ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ว่า "ประชาชนเกาหลีใต้ราว 10 ล้านครัวเรือน เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องหยุดรับประทานเนื้อสุนัข"

ทั้งนี้ ปาร์ก ยังให้คำจำกัดความร่างกฎหมายฉบับนี้ว่าเป็น "ร่างกฎหมายคิม กอนฮี" อ้างถึงสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ ซึ่งรณรงค์ยุติกิจวัตรการรับประทานเนื้อสุนัขในประเทศ อย่างไรก็ตาม การตั้งชื่อดังกล่าว เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง แม้กระทั่งจากสมาชิกภายในพรรคเอง ซึ่งกล่าวหา ปาร์ก ว่าประจบประแจงประธานาธิบดีจนเกินงาม

สุภาพสตรีหมายเลข 1 สนับสนุนการแบนซื้อขายและบริโภคเนื้อสุนัขทุกรูปแบบ และเมื่อเดือนที่แล้ว เธอได้เร่งเร้าสมัชชาแห่งชาติให้ผ่านกฎหมายฉบับหนึ่งสำหรับยุติกิจวัตรดังกล่าว และสัญญาว่าจะเดินหน้ารณรงค์และใช้ความพยายามเพื่อนำมาซึ่งจุดจบของการบริโภคเนื้อสุนัขให้ได้

"มนุษย์และสัตว์ควรอยู่ร่วมกัน" เธอบอกระหว่างแถงข่าวที่มีกลุ่มประชาคมหนึ่งเป็นเจ้าภาพเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม พร้อมระบุ "กิจกรรมเนื้อสุนัขอย่างถูกกฎหมายควรถึงจุดจบเสียที"

การบริโภคเนื้อสุนัขเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในคาบสมุทรเกาหลีมานานหลายร้อยปี แต่มันได้รับความนิยมลดน้อยลงเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนฟาร์มสุนัขทั่วเกาหลีใต้ลดลงกว่าครึ่ง แต่ยังมีสุนัขถูกฆ่าเป็นอาหารราว 700,000 ตัวต่อปี ลดลงจากระดับหลายล้านตัวเมื่อราว 1 ทศวรรษก่อน จากข้อมูลของสมาคมเกษตรกรผู้เลี้ยงสุนัข

ความพยายามที่ผ่านมาของรัฐบาลในการกำหนดให้อุตสากรรมเนื้อสุนัขเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ถูกคัดค้านจากทั้งเจ้าของฟาร์มสุนัขและร้านอาหาร เนื่องจากเกรงว่ามันจะกระทบต่อวิถีชีวิตของพวกเขา

(ที่มา : อาร์ทีนิวส์/บลูมเบิร์ก)


กำลังโหลดความคิดเห็น