นิโกลาส์ ซาร์โกซี อดีตประธานาธิบดีฝรั่งเศส ออกมาพูดเกี่ยวกับการอ้าแขนรับยูเครนเข้าร่วมอียูและนาโต โต้แย้งว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะไม่นำสันติภาพมาสู่ยุโรป แถมยังทำให้ความเป็นเอกราชของทวีปแห่งนี้แตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วย
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ France 5 TV เมื่อวันพุธที่แล้ว (6 ก.ย.) ซาร์โกซี เน้นย้ำข้อเรียกร้องของเขาที่ขอให้มีการประนีประนอมระหว่างมอสโกและเคียฟ โดยเน้นว่าความขัดแย้งได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วเกือบครึ่งล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวยูเครน
"แต่เราเดินหน้าความขัดแย้ง เพราะว่าบนถนน Boulevard Saint-Germain พวกเขากล้ามากๆ ในแง่ของการส่งคนหนุ่มยูเครนไปตาย" เขากล่าว อ้างถึงถนนที่มีชื่อเสียงในฐานเวทีดีเบตทางการเมืองอันเผ็ดร้อนในหมู่ปัญญาชนฝรั่งเศส
แม้ว่าจะประณามรัสเซียในฐานะ "ผู้รุกราน" ในความขัดแย้ง แต่ ซาร์โกซี เชื่อว่าการเข้าร่วมนาโตและอียูของยูเครน ซึ่งเคียฟเสาะแสวงหามานานหลายปีจะไม่นำมาซึ่งสันติภาพ "เพราะว่าถ้าคุณดึงยูเครนเข้าสู่ยุโรป คุณจะเสริมสร้างยุโรปอเมริกา เหมือนกับบรรดาชาติยุโรปตะวันออกที่ถูกครอบงำโดยสหรัฐฯ"
ซาร์โกซี ระบุว่าในขณะที่ยูเครนจำเป็นต้องแสดงออกตามความปรารถนาของอเมริกา เพราะว่าพวกเขาพึ่งพิงความช่วยเหลือทางทหารจากวอชิงตันเป็นอย่างมาก แต่สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิงในความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับปารีส "ฝรั่งเศสมีความพิเศษ ไม่ได้วางตนเองเป็นแนวร่วมทางผลประโยชน์กับสหรัฐฯ"
แม้เน้นย้ำว่าเขาต้องการให้ฝรั่งเศสสนับสนุนยูเครน แต่ ซาร์โกซี เชื่อว่าในท้ายที่สุดแล้ว ยูเครนควรได้รับคำรับประกันความมั่นคงจากตะวันตก ทว่าต้องแลกกับการคงสถานะความเป็นกลาง และเดินหน้าทำหน้าที่ในฐานะ "สะพานเชื่อมระหว่างโลกสลาฟของรัสเซียกับพวกเรา" เขากล่าว
"เราไม่อาจเดินหน้าทำสงครามด้วยแค่คำพูดที่ว่าขออาวุธเพิ่ม มีคนตายมากขึ้น ถูกต้านทานหนักหน่วงขึ้น แล้วคุณจะออกจากสิ่งนี้กันยังไง?" ซาร์โกซี ตั้งคำถาม
นอกจากนี้ ซาร์โกซี ชี้ว่าความขัดแย้งก่อประโยชน์แก่เพียงแค่ 2 ชาติ นั่นคือจีน ซึ่งเขาบอกว่ากำลังแผ่อิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการรวบรวมพันธมิตรในกลุ่มเศรษฐกิจ BRICS และสหรัฐฯ ซึ่งทำกำไรจากการขายอาวุธและราคาก๊าซธรรมชาติที่แพงขึ้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซาร์โกซีแนะนำว่าการประนีประนอมใดๆ กับมอสโกอาจเกี่ยวข้องกับการรับรองแคว้นไครเมีย ในฐานะส่วนหนึ่งของรัสเซีย ถ้อยแถลงที่ก่อความเดือดดาลแก่เคียฟ โดยที่ปรึกษารายหนึ่งของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ถึงกับเรียกมันว่าเป็นข้อเสนอของอาชญากร โดยกล่าวหา ซาร์โกซี สมรู้ร่วมคิดก่อสงครามและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)