หน่วยงานความมั่นคงระดับสูงของจีนระบุในวันจันทร์ (4 ก.ย.) การพบปะระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กับโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ปลายปีนี้จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าอเมริกาจะแสดงความจริงใจให้เห็นเพียงพอหรือเปล่า พร้อมเหน็บวอชิงตันปากบอกไม่ต้องการตัดขาดจากจีน แต่กลับยังเร่งขายอาวุธและให้เงินสนับสนุนทางทหารไต้หวัน ซึ่งเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3) ไบแดนแสดงความผิดหวังที่สีไม่ได้เดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดกลุ่มจี20 ที่อินเดีย ตอนสุดสัปดาห์นี้ แต่สำทับว่า ตนจะต้องหาทางให้ได้พบกับประมุขจีน
ไบเดนไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ แต่โอกาสที่เป็นไปได้ครั้งต่อไปที่ผู้นำทั้งสองจะไปอยู่ในสถานที่เดียวกันซึ่งสะดวกแก่การจัดประชุมหารือ ก็คือ ในการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่เมืองซานฟรานซิสโก ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้
ต่อมาในวันจันทร์ (4 ก.ย.) กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีนโพสต์บนแอปวีแชตว่า “เพื่อทำให้ ‘จากบาหลีสู่ซานฟรานซิสโก’ กลายเป็นความจริง อเมริกาจำเป็นต้องแสดงความจริงใจอย่างเพียงพอ” ทั้งนี้ คำว่า บาหลี ย่อมหมายถึงการพบกันครั้งล่าสุดระหว่างไบเดนกับสี ในการหารือข้างเคียงของการประชุมสุดยอดกลุ่มจี20 ปีที่แล้ว ซึ่งจัดขึ้นที่เกาะบาหลีเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2022
กระนั้น ในโพสต์ดังกล่าวไม่ได้ระบุชัดๆ ถึงซัมมิตเอเปกแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่ากระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐซึ่งเป็นหน่วยงานหลักทางด้านข่าวกรองของจีน ถือเป็นตัวแทนที่สะท้อนความคิดของสี เกี่ยวกับการดำเนินการทางการทูตหรือมีอิทธิพลต่อสีในเรื่องดังกล่าวหรือไม่
รัฐบาลจีนนั้นประกาศว่า สุดสัปดาห์นี้นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง มีกำหนดนำคณะผู้แทนจีนไปร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มจี20 ที่นิวเดลี ซึ่งก็คือการยืนยันว่า สีจะไม่ไปร่วม
ขณะที่ในโพสต์ของกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐยังกล่าวว่า คณะบริหารไบเดนใช้ยุทธศาสตร์ตีสองหน้าในการจัดการกับจีน โดยด้านหนึ่งนั้นอ้างว่ายินดีที่สองประเทศจะแข่งขันกัน แต่อีกด้านกลับต้องการควบคุมการแข่งขันดังกล่าว
โพสต์นี้บอกว่า ถึงแม้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายคนที่พากันไปเยือนจีนเมื่อเร็วๆ นี้ต่างยืนยันว่าวอชิงตันไม่มีเจตนาสกัดขัดขวางการพัฒนาของปักกิ่ง หรือมุ่งตัดขาดหย่าร้างจากจีน ทว่าอเมริกากลับยังคงอนุมัติการขายอาวุธและให้เงินช่วยเหลือทางทหารแก่ไต้หวัน ซึ่งเป็นดินแดนในอธิปไตยของจีน ตลอดทั้งหยิบยกเรื่องทิเบตและทะเลจีนใต้ขึ้นมาเป็นประเด็นปัญหา และวิพากษ์วิจารณ์เศรษฐกิจจีนอย่างเปิดเผย
กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐร่ายต่อว่า จีนไม่มีวันยอมลดความระมัดระวังตัวลง เพียงเพราะ “คำพูดที่ดูดี” ไม่กี่คำจากอเมริกา และเสริมว่า ประดาอุปสรรค การปิดล้อมและการมุ่งกำราบปราบปรามของอเมริกา รังแต่จะทำให้จีนเก่งกล้าและพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างที่ จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ เดินทางเยือนจีน เธอก็กล่าวว่า อเมริกาไม่ต้องการตัดขาดหย่าร้างจากจีน แต่สำทับว่า ได้รับการร้องเรียนจากบริษัทอเมริกันว่า จีนกลายเป็นประเทศที่ “ไม่สามารถลงทุนได้” เนื่องจากมีการสั่งปรับ บุกค้น และการดำเนินการต่างๆ ที่ทำให้มีความเสี่ยงในการทำธุรกิจในจีน
ขณะที่จีนเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำอีกให้อเมริกาดำเนิน “ปฏิบัติการที่มีผลในทางเป็นจริงและเป็นประโยชน์” มากขึ้น มาธำรงรักษาความสัมพันธ์ระหว่างกัน
(ที่มา : รอยเตอร์)