ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้น 2 เดือนติดในเดือนกรกฎาคม ในขณะเดียวกันพวกเขาสะสมทองคำสำรองเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกันแล้ว จากข้อมูลอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ส่วนหนึ่งในความเคลื่อนไหวลดพึ่งพิงดอลลาร์สหรัฐ
ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศและทองคำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของจีน สะท้อนถึงความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจจีนและความสามารถในการยืนหยัดรับมือความเสี่ยงต่างๆ หนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สรายงานโดยอ้างความเห็นของพวกนักวิเคราะห์
ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและผันผวน การเติบโตของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ จะช่วยนำมาซึ่งเสถียรภาพทั้งในตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ
อ้างอิงข้อมูลจากสํานักงานบริหารเงินตราต่างประเทศของจีน (State Administration of Foreign Exchange : SAFE) ระบุว่าจนถึงช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม ทุนสำรองเงินตราประเทศของจีนอยู่ที่ 3.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน 11,300 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.35%
ก่อนหน้านี้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีน เพิ่มขึ้น 16,500 ล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน ท่ามกลางการอ่อนค่าของเงินหยวน จากข้อมูลของทาง SAFE
รายงานของ SAFE ระบุว่าเศรษฐกิจของจีนมีความยืดหยุ่นอย่างมากและมีศักยภาพสำหรับการพัฒนา และพื้นฐานที่มั่นคงในระยะยาวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งมีทุนสำรองที่มีเสถียรภาพเป็นตัวช่วยสำคัญ
"อิทธิพลจากนโยบายการเงินต่างๆ ความคาดหมายที่มีต่อเศรษฐกิจหลักๆ ข้อมูลเศรษฐศาสตร์มหภาคทั่วโลก ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ราคาสินทรัพย์ทางการเงินทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นโดยทั่วไป การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนและการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ คือปัจจัยที่ช่วยให้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม"
นอกจากนี้ ข้อมูลของ SAFE ระบุว่าธนาคารประชาชนจีน (People's Bank of China) ซึ่งเป็นธนาคาร ได้เพิ่มทองคำสำรองเพิ่มเติมในเดือนกรกฎาคม ถือเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน โดยข้อมูลพบว่าคลังสำรองทองคำของจีน จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม มีทั้งสิ้น 69.69 ล้านออนซ์ คิดเป็นมูลค่า 135,360 ล้านดอลลาร์ (ราว 470,000 ล้านบาท)
นักวิเคราะห์คาดหมายว่าเศรษฐกิจของจีนจะยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ในขณะที่ขนาดของทุนสำรองระหว่างประเทศจะยังคงมีเสถียรภาพ "เศรษฐกิจจีนกำลังฟื้นตัวอย่างมั่นคง ได้แรงหนุนจากความยืดหยุ่นในการค้าต่างประเทศและมีการใช้ทรัพย์สินที่คิดหน่วยเป็นสกุลเงินหยวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ"
"นอกเหนือจากนี้แล้ว การปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ กำลังมาถึงจุดสิ้นสุด ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้บ่งชี้ว่าทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนจะยังคงมีเสถียรภาพ" เจ้า เหมาหัว นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคาร China Everbright Bank ให้สัมภาษณ์กับโกลบอลไทม์ส
ท่ามกลางความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศคว่ำบาตรรัสเซียจากเหตุผลการบุกยูเครน หรือแม้แต่กรณีความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ทำให้หลายประเทศเริ่มหาทางออกจากการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
หมิง หมิง นักเศรษฐศาสตร์ของ CITIC Securities กล่าวว่าจีนมีทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 5% ด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับธนาคารกลางของประเทศพัฒนาแล้วที่มีสัดส่วนสูงกว่านั้น และคาดว่าจีนจะซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง
อนึ่งที่ผ่านมา บรรดาธนาคารกลางทั่วโลกได้พยายามที่จะลดการพึ่งพาสกุลเงินสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นไม่ซื้อเงินดอลลาร์เก็บเป็นทุนสำรอง แต่พยายามหาสกุลเงินอื่นๆ ทดแทน หรือแม้แต่การเก็บสะสมทองคำ ซึ่งนโยบายดังกล่าวของธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงธนาคารกลางจีนเองยังส่งผลทำให้ราคาทองเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
(ที่มา : โกลบอลไทม์ส)