ราคาน้ำมันขยับลง 1% ในวันจันทร์ (7 ส.ค.) หลังปรับขึ้นมา 6 สัปดาห์ติด นักลงทุนจับตาอุปสงค์ที่อ่อนแอจากจีนและสหรัฐฯ 2 ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกและทองคำปรับลด เฝ้ารอข้อมูลเงินเฟ้อของอเมริกาที่มีกำหนดเผยแพร่ในช่วงปลายสัปดาห์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 88 เซนต์ ปิดที่ 81.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 90 เซนต์ ปิดที่ 85.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
พวกนักวิเคราะห์ชี้ปัจจัยที่ฉุดราคาน้ำมันใวันจันทร์ (7 ส.ค.) ได้แก่แรงเทขายตามหลังปรับขึ้นมา 6 สัปดาห์ติด ใกล้สิ้นสุดฤดูกาลขับขี่ของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน และอุปสงค์ที่อ่อนแอเกินคาดหมายจากจีน
ข้อมูลเศรษฐกิจจีนในสัปดาห์นี้จะเป็นที่จับตาอย่างมาก ในขณะที่ตลาดจับตาความปรารถนาของปักกิ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลกแห่งนี้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (7 ส.ค.) ปิดบวก ฟื้นตัวจากการปรับลดในสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนกระชับฐานก่อนหน้ารัฐบาลอเมริกาเผยแพร่รายงานเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นที่จับตาอย่างมากในวันพฤหัสบดี (10 ส.ค.)
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 407.51 จุด (1.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,473.13 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 40.41 จุด (0.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,518.44 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 85.16 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,994.40 จุด
วอลล์สตรีทปิดลบในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว จากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังปรับขึ้นต่อเนื่องมานานหลายเดือน สืบเนื่องจากความกังวลต่อข้อมูลเศรษฐกิจ รายงานผลประกอบการที่ผสมผสานและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนหันมาช้อนซื้อก่อนหน้าสหรัฐฯ เผยแพร่ข้อมูลเงินเฟ้อในวันพฤหัสบดี (10 ส.ค.) ท่ามกลางความคาดหมายว่าดัชนีผู้บริโภคล่าสุดนี้จะให้เงื่อนงำเกี่ยวกับแนวทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังข้อมูลการจ้างงานเมื่อวันศุกร์ (4 ส.ค.) รื้อฟื้นความกังวลว่าเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานาน
ส่วนราคาทองคำปรับลดในวันจันทร์ (7 ส.ค.) หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดตัว และนักลงทุนจับตาเส้นทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 6.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,970.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)
