ไม่รบเอง!? สหรัฐฯ เผยเล็งยืมมือพันธมิตรตอบโต้กองทัพจีน หากเกิดความขัดแย้งในเอเชีย-แปซิฟิก

สหรัฐฯ จะพึ่งพาพันธมิตรแทนที่จะขยายขอบเขตกองทัพของตนเองครั้งใหญ่ ตอบโต้กรณีเกิดความขัดแย้งด้านทางทหารใดๆ กับจีนในแปซิฟิก ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคแถบนี้ นายพลรายหนึ่งของอเมริกาเปิดเผยกับเอเอฟพีเมื่อวันจันทร์ (31 ก.ค.)

พล.อ.โจเซฟ ไรอัน ผู้บัญชาการกองพลที่ 25 ซึ่งมีกำลังพล 12,000 นาย บนเกาะโอวาฮู รัฐฮาวาย ระบุปักกิ่งกำลังสนุกสนานกับข้อได้เปรียบที่ชัดเจนมากในภูมิภาค อ้างถึงการขยายอิทธิพลของกองทัพจีน แสนยานุภาพด้านขีปนาวุธพิสัยไกล และความสะดวกที่ปักกิ่งสามารถประจำการกองกำลังและยุทโธปกรณ์ในแปซิฟิก

ในทางตรงกันข้าม พล.อ.โจเซฟ กล่าวว่าในกรณีที่เกิดความขัดแย้ง สหรัฐฯ และพันธมิตรจะจำเป็นต้องเดินทางข้ามน่านน้ำสากลหรือดินแดนของหลายประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากชาติเหล่านั้น เช่นเดียวกับการเคลื่อนย้ายและการขนส่งทั้งทางอากาศ ทางบกและทางทะเล

"ผมมองไม่เห็นถึงการยกระดับการประจำการทางทหารครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ ในภูมิภาค" ไรอัน ให้ความเห็นระหว่างอยู่ที่เมืองดาร์วิน ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีการซ้อมรบทางทหารนานาชาติ Talisman Sabre เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า "สิ่งที่ผมมองเห็นคือการเพิ่มพันธมิตร การเพิ่มโอกาสสำหรับความเป็นหุ้นส่วนในภูมิภาค"

ความตึงเครียดระหว่างปักกิ่งและวอชิงตัน เกี่ยวกับไต้หวันปะทุขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับคำกล่าวของจีน เกี่ยวกับกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่อันกว้างขวางของทะเลจีนใต้และสงครามแย่งชิงอิทธิพลในแปซิฟิกใต้

จีน อ้างว่าไต้หวัน เกาะปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนและประกาศทวงคืนโดยใช้กำลังถ้ามีความจำเป็น อย่างไรก็ตาม ไรอัน อ้างดังกล่าวอาจเป็นแค่ "ประเด็นแรกในแผนการใหญ่ของจีน ที่จะกลายมาเป็นเจ้าภูมิภาคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่แน่นอนว่าพวกเขามีแรงบันดาลใจยกระดับความเป็นเจ้าโลกเช่นกัน"

อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ พบว่าจีนมีกองทัพเรือขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนกองทัพอากาศรั้งอันดับ 3 ของกองทัพอากาศขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และในบางมาตรวัด กองทัพจีนนับว่าเป็นกองทัพที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

ในยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อปีที่แล้ว เป้าหมายลำดับต้นๆ ของพันธมิตร คือพยายามจำกัดความเคลื่อนไหวต่างๆ ของจีน ผ่านการเจรจาโดยตรง

พล.อ.ไรอัน กล่าวว่า การมีส่วนร่วมในการซ้อมรบ Talisman Sabre ของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงพันธสัญญาของอเมริกาที่มีต่อพันธมิตร พร้อมปฏิเสธว่าวอชิงตันไม่ได้กำลังขอให้บรรดาชาติต่างๆ ในแปซิฟิกเลือกระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

"เราแค่ขอให้พวกเขาดำเนินการต่างๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของพวกเขาเอง และขอให้พิจารณาว่าสหรัฐฯ ต้องการเป็นคู่หูกับพวกเขา และประเทศเสรีและเอกราชอื่นๆ ที่ให้ค่าอธิปไตยของพวกเขาในภูมิภาค อย่างเช่นออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ต้องการเป็นพันธมิตรกับพวกเขา" พล.อ.ไรอัน ระบุ

(ที่มา : เอเอฟพี)