(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
Why China will draw investors despite economic warning signs
By NIGEL GREEN
13/07/2023
ประเทศจีนผ่านการพิสูจน์แล้วในเรื่องมีความสามารถที่จะเดินทางฝ่าข้ามและปรับตัวดัดแปลงเพื่อให้ผ่านพ้นความท้าทายต่างๆ ทางเศรษฐกิจ
นับเฉพาะช่วงตั้งแต่ที่การแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 เริ่มต้นขึ้นมา การส่งออกของจีนในเวลานี้อยู่ในอาการไหลรูดลงอย่างแรงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนหน้า จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงโหมกระพือความวิตกกังวลเกี่ยวกับเส้นทางการเติบใหญ่ขยายตัวของประเทศเจ้าของระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกรายนี้
ดีมานด์ความต้องการระหว่างประเทศที่อยู่ในภาวะอ่อนตัวลง ซึ่งจุดชนวนให้ยอดส่งออกของจีนหล่นวูบเช่นนี้ บังเกิดขึ้นในจังหวะเวลาเดียวกับที่เศรษฐกิจภายในแดนมังกรเองตกอยู่ใต้แรงบีบคั้นกดดันของภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งอ่อนปวกเปียก รวมทั้งการดีดตัวกลับจากโควิดยังเป็นไปอย่างล่าช้าน่าผิดหวังภายหลังมีการยกเลิกมาตรการควบคุมต่างๆ ไปเมื่อตอนเริ่มต้นปีนี้ นอกจากนั้น อัตราการว่างงานของคนหนุ่มสาวยังอยู่ในระดับสูงที่สุดเท่าที่เคยบันทึกกันไว้อีกด้วย
แต่ถึงแม้เผชิญความท้าทายต่างๆ เหล่านี้ ประเทศจีนยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์ดึงดูดสำหรับเหล่านักลงทุนอยู่นั่นเอง
หนึ่งในเหตุผลที่มีมนตร์ขลังมากที่สุดซึ่งดึงดูดให้นักลงทุนยังคงติดอกติดใจจีน ก็คือศักยภาพของตลาดขนาดมหึมาของแดนมังกรนั่นเอง
ด้วยจำนวนประชากรที่มีมากกว่า 1,400 ล้านคน และชนชั้นกลางที่กำลังเติบโตขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ ประเทศจีนจึงกำลังเสนอฐานผู้บริโภคที่กว้างขวางใหญ่โตมากสำหรับให้ธุรกิจต่างๆ เข้าไปประกอบกิจการ ระดับรายได้ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นและกระบวนการเปลี่ยนไปสู่วิถีชีวิตแบบเมืองใหญ่ซึ่งกำลังทวีขึ้นเรื่อยๆ เป็นเชื้อเพลิงให้แก่ดีมานด์ความต้องการในผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ หลายหลาก เป็นการสร้างโอกาสอันอุดมสมบูรณ์ให้แก่นักลงทุนในภาคส่วนต่างๆ อย่างเช่น เทคโนโลยี การดูแลสุขภาพ และสินค้าผู้บริโภค
นอกจากนั้น สาธารณรัฐประชาชนจีนยังมีความสามารถที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วในการเดินทางฝ่าข้ามและการปรับตัวดัดแปลงเพื่อให้ผ่านพ้นความท้าทายต่างๆ ทางเศรษฐกิจ แม้กระทั่งเมื่อเผชิญลมปะทะที่ไม่เป็นผลดีในช่วงหลังๆ นี้ ซึ่งรวมถึงเรื่องความตึงเครียดทางการค้า และโรคระบาดใหญ่ แต่จีนยังคงแสดงให้เห็นถึงการหยุ่นตัวได้อย่างโดดเด่น
นโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลจีนริเริ่มจัดวางออกมาอย่างกระตือรือร้น เป็นต้นว่า พวกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งหลาย และการดำเนินการปฏิรูปต่างๆ ที่มีเป้าหมายซึ่งจัดวางเอาไว้ มีผลเป็นการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำให้เงื่อนไขต่างๆ ของตลาดมีเสถียรภาพ
ภาพรวมของผลงานเรื่องความสามารถในการปรับตัวที่ผ่านมาซึ่งเป็นที่รับรู้กันเช่นนี้ ค่อยๆ ปลูกฝังความมั่นอกมั่นใจขึ้นในหมู่นักลงทุน ทำให้พวกเขาเชื่อว่าจีนสามารถที่จะรับมือและเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
การที่ประเทศจีนเน้นหนักเรื่องการวิจัยและการพัฒนา เมื่อบวกเข้ากับการทุ่มลงทุนอย่างสำคัญเข้าไปในพวกเทคโนโลยีเกิดใหม่อย่างเช่น ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) การสื่อสารเจเนอเรชันที่ 5 (5จี) และเทคโนโลยีชีวภาพขับดันจีนให้ยืนอยู่ระดับหัวแถวในเรื่องความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
พวกนักลงทุนต่างตระหนักรับรู้ถึงศักยภาพอย่างมหาศาลของภาคส่วนเหล่านี้ และมีความกระหายที่จะเข้าใช้ประโยชน์จากความสามารถอย่างเหนือชั้นในทางเทคโนโลยีของประเทศจีน ซึ่งกำลังเสนอโอกาสที่พิเศษสุดสำหรับการได้รับผลตอบแทนระดับสูงๆ
ด้านบวกที่สำคัญมากอีกอย่างหนึ่งในสายตาของเหล่านักลงทุนคือ การที่จีนมุ่งมั่นผูกพันกับเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีประเทศอื่นๆ เทียบเคียงได้เลย ตัวอย่างเช่น แผนการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative หรือ BRI) กำลังสาธิตให้เห็นถึงความมุ่งมาดปรารถนาของแดนมังกรในการเชื่อมตัวผูกโยงกับระบบเศรษฐกิจอื่นๆ และเพิ่มพูนการค้าในระดับโลก
แผนการริเริ่มนี้ซึ่งมีศักยภาพทั้งในการเปิดตลาดใหม่ๆ การเพิ่มพูนยกระดับเครือข่ายด้านโลจิสติกส์ และการอำนวยความสะดวกให้แก่การบูรณาการทางเศรษฐกิจ ทำให้มันกลายเป็นลู่ทางความเป็นไปได้ในอนาคตที่มีเสน่ห์สำหรับพวกนักลงทุน
เหล่านักลงทุนยังตระหนักเป็นอย่างดีด้วยว่า โมเดลทางเศรษฐกิจของประเทศจีนกำลังค่อยๆ เปลี่ยนแปลงจากการสร้างอัตราเติบโตขยายตัวโดยมีการส่งออกเป็นตัวผลักดัน มาสู่โมเดลซึ่งอาศัยเชื้อเพลิงจากการบริโภคภายในประเทศ การเปลี่ยนผ่านเช่นนี้เป็นการเสนอโอกาสต่างๆ ชุดใหม่ให้แก่นักลงทุน ขณะที่ประชากรจีนอยู่ในภาวะมั่งคั่งร่ำรวยขึ้นและเน้นหนักที่การบริโภคมากขึ้นทุกที
พวกบริษัทต่างๆ ที่คอยดูแลตอบสนองรสนิยมและความชื่นชอบต่างๆ ของพวกผู้บริโภคชาวจีนซึ่งกำลังวิวัฒนาการไปเรื่อยๆ ย่อมมีโอกาสที่จะได้รับผลประโยชน์อย่างมหึมาจากการเปลี่ยนแปลงที่ลงรากลึกถึงในระดับกระบวนทัศน์เช่นนี้ จึงเป็นตัวเร่งรัดให้เหล่านักลงทุนพากันโฟกัสที่ภาคส่วนอย่างเช่น อีคอมเมิร์ซ นันทนาการ และสินค้าหรูหราต่างๆ
ขณะที่จวบจนถึงเวลานี้พวกผู้กำหนดนโยบายของจีนยังคงหยุดยั้งไม่ใช้มาตรการกระตุ้นขนาดใหญ่ๆ ตรงกันข้ามกลับหันมาใช้วิธีลดอัตราดอกเบี้ยตัวสำคัญๆ เมื่อเดือนที่แล้วเพื่อสนับสนุนการเติบโต แต่ในอดีตรัฐบาลจีนได้เคยแสดงให้เห็นแล้วถึงความมุ่งมั่นผูกพันอย่างแข็งขันในเรื่องการดำเนินการปฏิรูปต่างๆ ทางเศรษฐกิจที่มุ่งจุดมุ่งหมายในการปรับปรุงยกระดับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ และดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
ผมมีความมั่นใจว่าถ้าหากสถานการณ์ยังไม่แสดงสัญญาณว่ามีการกระเตื้องขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอแล้ว พวกเจ้าหน้าที่จะมีการประกาศแพกเกจกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา
สื่อมวลชนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเต็มไปด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่จีนต้องเผชิญ อย่างไรก็ดี สำหรับนักลงทุนแล้ว พวกเขาน่าจะมองเลยไกลไปจากช่วงระยะสั้น และพิจารณาไปถึงศักยภาพในระยะยาว
ไนเจล กรีน เป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอของกลุ่มที่ปรึกษาทางการเงิน deVere