จะเป็นครั้งแรกที่เยอรมนีส่งทหารไปออสเตรเลีย ส่วนหนึ่งของการซ้อมรบร่วมกับกำลังพลราว 30,000 นายจากประเทศอื่นๆ อีก 12 ชาติ เน้นย้ำว่าเบอร์ลินได้ยกระดับเพ่งเล็งมาที่อินโด-แปซิฟิก ท่ามกลางความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นกับจีนในภูมิภาคแห่งนี้
ทหารเยอรมนีสูงสุด 240 นาย ในนั้นเป็นทหารพลร่ม 170 นาย และนาวิกโยธิน 40 นาย จะเข้าร่วมการซ้อมรบ Talisman Sabre ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม ถึง 4 สิงหาคม ซึ่งมันเป็นการซ้อมรบใหญ่ที่สุดระหว่างออสเตรเลียกับสหรัฐฯ และจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง
"มันคือภูมิภาคหนึ่งที่มีความสำคัญระดับสูงมากสำหรับเราในเยอรมนี เช่นเดียวกับสำหรับสหภาพยุโรป สืบเนื่องจากการพึ่งพาอาศัยกันทางเศรษฐกิจ" พล ท.อัลฟอนส์ ไมส์ ผู้บัญชาการทหารเยอรมนีระบุ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ที่เผยแพร่ในวันจันทร์ (10 ก.ค.) ไม่กี่ชั่วโมงก่อนททหารเยอรมนีออกเดินทางไปออสเตรเลีย
กำลังพลเยอรมนีจะฝึกฝนทำสงครามป่าและปฏิบัติการยกพลขึ้นบก ร่วมกับทหารจากประเทศอื่นๆ เช่น อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร "เป้าหมายของเราคือแสดงให้เห็นว่าเราเป็นพันธมิตรที่มีความน่าเชื่อถือและมีศักยภาพ ซึ่งมีส่วนช่วยในการรักษาเสถียรภาพของระเบียบระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกติกาในภูมิภาคแห่งนี้" พล.ท.ไมส์ กล่าว
เมื่อถูกถามว่าการาประจำการทหารเยอรมนีในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก มีเจตนาส่งสารถึงจีนหรือไม่อย่างไร พล.ท.โมส์ ตอบกลับว่าเบอร์ลินไม่ได้มีเป้าหมายเป็นปรปักษ์กับประเทศไหน
"โดยทั่วไปแล้ว มันเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่ได้รู้ทัศนคติของชาติอื่นๆ ในโลกนี้" พลโทรายนี้กล่าว พร้อมระบุว่า ความท้าทายด้านความมั่นคงในปัจจุบันมีความคลุมเครือมากกว่าช่วงก่อนหน้ายุคปี 1990 เป็นอย่างมาก "สงครามเย็นนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ มันคือโลก 2 ขั้ว แต่ในวันนี้ เราไม่อาจโฟกัสแค่ยุโรปแต่เพียงอย่างเดียว เราจำเป็นต้องวางสถานะของตนเองในขอบเขตที่กว้างขวางกว่าเดิมมาก"
จีนคือคู่ค้าสำคัญที่สุดของเยอรมนี และราว 40% ของกระแสการค้าต่างประเทศของยุโรป เป็นการลำเลียงผ่านทะเลจีนใต้ น่านน้ำซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของประเด็นพิพาทด้านเขตแดนในอินโด-แปซิฟิก
ในปี 2021 เรือรบเยอรมนีลำหนึ่งล่องเข้าสู่ทะเลจีนใต้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี และเมื่อปีที่แล้ว เบอร์ลินส่งเครื่องบินทหาร 13 ลำ เข้าร่วมซ้อมรบร่วมในออสเตรเลีย ถือเป็นการประจำการด้านกองกำลังทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงเวลาสันติ
พล ท.ไมส์ มีแผนเดินทางไปเยี่ยมเยือนทหารเยอรมนีในออสเตรเลียและโรงงานประกอบยานยนต์ลำเลียงหุ้มเกราะบ็อกเซอร์สำหรับกองทัพทั้ง 2 ชาติ ของบริษัท Rheinmetall ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ก่อนเดินทางต่อไปญี่ปุ่นและสิงคโปร์ "ญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่มีศักยภาพต่างๆ มากมายสำหรับกระชับความร่วมมือทางทหารทวิภาคีระหว่างเราแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น" เขากล่าว
(ที่มา : อัลจาซีราห์)