xs
xsm
sm
md
lg

ซีไอเอชี้โอกาสทองสร้างสายลับในรัสเซีย วากเนอร์เผยให้เห็นความไม่พอใจต่อปูติน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - ผู้อำนวยการซีไอเอชี้กบฏวากเนอร์เป็นความท้าทายต่อรัสเซีย และเผยให้เห็นผลลัพธ์ที่กัดกร่อนสังคมและรัฐบาลรัสเซียจากสงครามในยูเครน ซึ่งทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างมากในหมู่ชาวรัสเซียและกลายเป็นโอกาสที่หาได้ยากในการรับสมัครสายลับในแดนหมีขาว

สัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ขอบคุณกองทัพและกองกำลังความมั่นคงที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสงครามกลางเมือง และเปรียบเทียบการกบฏของกองกำลังติดอาวุธของวากเนอร์ กรุ๊ป บริษัททหารรับจ้างภายใต้การนำของเยฟเกนี ปรีโกจิน กับเหตุการณ์วุ่นวายที่ทำให้เกิดการปฏิวัติ 2 ครั้งในรัสเซียในปี 1917

ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ปรีโกจินโจมตีนายทหารอาวุโสที่สุดของปูตินอย่างเปิดเผยด้วยคำสบถหยาบคาย และศัพท์คนคุกที่ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียพากันช็อก แต่กลับไม่มีการตอบโต้อย่างเปิดเผยจากปูติน

วิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ (ซีไอเอ) กล่าวในที่ประชุมมูลนิธิดิตช์ลีย์ ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่หวังผลกำไรของอังกฤษที่มุ่งเน้นความสัมพันธ์อังกฤษ-อเมริกา ซึ่งจัดขึ้นในเมืองออกซ์ฟอร์ดเชอร์เมื่อวันเสาร์ (1 ก.ค.) ว่า เห็นได้ชัดว่า ปรีโกจินดำเนินการควบคู่กับการตีแผ่เหตุผลจอมปลอมของเครมลินในการรุกรานยูเครนและการทำสงครามของผู้นำกองทัพรัสเซีย

ผู้อำนวยการซีไอเอเสริมว่า ผลกระทบจากคำพูดและการกระทำเหล่านั้นจะปรากฏขึ้นในเวลาใดเวลาหนึ่งในรูปการเตือนความจำถึงผลลัพธ์ที่กัดกร่อนสังคมและรัฐบาลรัสเซียจากสงครามของปูติน

เบิร์นส์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำรัสเซียในปี 2002-2008 และได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการซีไอเอในปี 2021 กล่าวว่า การปฏิวัติของปรีโกจินเป็นความท้าทายติดอาวุธต่อรัสเซีย และเป็นกิจการภายในของรัสเซียที่อเมริกาไม่เคยและจะไม่มีวันมีส่วนเกี่ยวข้อง

นับจากตกลงยุติการกบฏเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เครมลินพยายามสร้างภาพว่า สถานการณ์กลับสู่ความสงบ โดยปูตินได้หารือเรื่องการพัฒนาการท่องเที่ยว พบปะกับประชาชนในดาเจสถาน และหารือแนวคิดในการพัฒนาเศรษฐกิจ

วันศุกร์ที่ผ่านมา (30 มิ.ย.) เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ประกาศว่า รัสเซียจะแข็งแกร่งกว่าเดิมภายหลังความพยายามก่อกบฏล้มเหลว ตะวันตกจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพในรัสเซียซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจนิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดของโลก

เบิร์นส์แย้งว่า สงครามในยูเครนถือเป็นความล้มเหลวเชิงยุทธศาสตร์สำหรับรัสเซียจากการตีแผ่ให้เห็นจุดอ่อนของกองทัพรัสเซีย อีกทั้งยังทำลายเศรษฐกิจแดนหมีขาว ขณะที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะเติบโตแข็งแกร่งขึ้น

เขาสำทับว่า อนาคตของรัสเซียในฐานะหุ้นส่วนที่เป็นรองและอาณานิคมทางเศรษฐกิจของจีนถูกกำหนดแล้วจากความผิดพลาดของปูติน

เบิร์นส์ยังบอกอีกว่า ความไม่พอใจในรัสเซียที่มีต่อสงครามยูเครนทำให้เกิดโอกาสที่หาได้ยากในการรับสมัครสายลับ และซีไอเอไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป

ทางด้านเครมลินนั้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาได้ระบุว่า กำลังติดตามกิจกรรมการสอดแนมของตะวันตก หลังจากซีไอเอเผยแพร่วิดีโอเชิญชวนให้คนรัสเซียติดต่อผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตที่มีการรักษาความปลอดภัย

วิดีโอสั้นดังกล่าวที่เป็นภาษารัสเซียมีข้อความระบุว่า ซีไอเอต้องการข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและผู้นำรัสเซียจากทหาร ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรอง นักการทูต นักวิจัย และคนรัสเซีย
กำลังโหลดความคิดเห็น