xs
xsm
sm
md
lg

รีบออกตัว! ‘ไบเดน’ ยันสหรัฐฯ-พันธมิตรไม่มีเอี่ยว ‘วากเนอร์’ ก่อกบฏต้านปูติน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (26 มิ.ย.) ว่าการก่อกบฏต่อต้านเครมลินของกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นผลจากการแก่งแย่งอำนาจในหมู่ชนชั้นปกครองของรัสเซียเอง โดยที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย

ไบเดน ให้การประเมินที่ค่อนข้างระมัดระวังต่อสถานการณ์ซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงในรัสเซีย เพื่อหลีกเลี่ยงกระพือความขัดแย้งกับมอสโก แต่ขณะเดียวกัน ก็ยังยืนยันว่าชาติตะวันตกพร้อมสนับสนุนความพยายามของยูเครนในการที่จะเอาชนะและขับไล่ทหารผู้รุกรานจากแดนหมีขาว

“เราประกาศชัดเจนว่าเราไม่เกี่ยวข้อง เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย”
ไบเดน ระบุในถ้อยแถลงครั้งแรกวานนี้ (26) ตามหลังเหตุการณ์ที่ทหารวากเนอร์ก่อกบฏเมื่อช่วงสุดสัปดาห์

จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว แถลงว่า สารจาก ไบเดน ที่ยืนยันว่าชาติตะวันตก “ไม่เกี่ยวข้อง” ถูกส่งตรงถึงเจ้าหน้าที่รัสเซียผ่านหลายช่องทางการทูต แต่ไม่ได้เผยว่ารัสเซียให้คำตอบกลับมาอย่างไร

ผู้นำสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่า ตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอัปเดตสถานการณ์ให้ตนทราบชนิด “ชั่วโมงต่อชั่วโมง” และเตรียมแผนรับมือฉากทัศน์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น แต่ไม่ขอให้รายละเอียด

ด้านสำนักข่าว TASS ของรัสเซียอ้างถ้อยแถลงจาก เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียวานนี้ (26) ว่า หน่วยข่าวกรองรัสเซียอยู่ระหว่างสอบสวนว่ามีหน่วยสืบราชการลับของชาติตะวันตกเกี่ยวข้องกับแผนก่อกบฏที่ล้มเหลวของพวกวากเนอร์หรือไม่

แหล่งข่าวผู้ไม่ประสงค์ออกนามคนหนึ่งให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ “ได้เบาะแสล่วงหน้า” ว่า “มีความเป็นไปได้” ที่ เยฟเกนี ปรีโกจิน ผู้นำกองกำลังทหารรับจ้างวากเนอร์ อาจจะก่อกบฏด้วยอาวุธ (munity) ต่อทำเนียบเครมลิน และได้สรุปข้อมูลให้สภาคองเกรสรับทราบก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ

รัฐบาล ไบเดน ยังคงปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมุมมองที่ว่า การลุกฮือของทหารวากเนอร์ครั้งนี้บ่งชี้ว่าสงครามที่ยืดเยื้อมานาน 16 เดือนกำลังบั่นทอนฐานอำนาจของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน

แมตต์ มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เวลานี้คงยังตอบไม่ได้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะนำไปสู่ผลลัพธ์ใด แต่เขาย้ำว่า “เป็นเรื่องใหม่ที่เราได้เห็นการท้าทายโดยตรงต่อคณะบริหารของปูติน และเป็นเรื่องใหม่ที่เราได้เห็น เยฟเกนี ปรีโกจิน ตั้งคำถามตรงๆ กับเหตุผลในการทำสงครามครั้งนี้ และยังออกมาชี้ว่ามันเกิดขึ้นบนพื้นฐานของคำโกหกหลอกลวง”

ไบเดน ระบุว่า เขาได้หารือกับชาติพันธมิตรสำคัญๆ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อให้ทุกชาติแสดงจุดยืนและตอบสนองไปในทิศทางเดียวกัน

“พวกเขาเห็นด้วยกับผมว่า เราจะต้องไม่ปล่อยให้ ปูติน มีข้ออ้าง หรือกล่าวโทษได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือตะวันตกและนาโต” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว

ไบเดน ได้พูดคุยกับประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ (25) และเตรียมจะหารือกับผู้นำยูเครนอีกครั้งในวันจันทร์ (26) และวันอังคาร (27) เพื่อให้มั่นใจว่าทั้ง 2 ฝ่ายมีจุดยืนตรงกัน

เคอร์บีย์ ระบุว่า สหรัฐฯ ไม่ทราบรายละเอียดข้อตกลงสงบศึกระหว่าง ปูติน กับ ปรีโกจิน ที่ทำให้การก่อกบฏยุติลงภายในเวลาอันรวดเร็ว และก็ไม่ทราบด้วยว่าเวลานี้ ปรีโกจิน อยู่ที่ไหนแน่

ที่มา : รอยเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น