เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยอมรับรู้สึกประหลาดใจที่กองทัพมืออาชีพของรัสเซียไม่ต้านทานอย่างหนักหน่วงในการเผชิญหน้ากับกองกำลังทหารรับจ้างวากเนอร์ ซึ่งเคลื่อนพลจากรอสตอฟมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง ทั้งที่อเมริกาคาดหมายว่าการลุกฮือดังกล่าว "จะนำมาซึ่งเหตุนองเลือดมากกว่าที่เป็น" ตามรายงานของอาร์ทีนิวส์ อ้างอิงรายงานข่าวของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นอีกที
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่สร้างความประหลาดใจก็คือ การบรรลุข้อตกลงอย่างรวดเร็วในวันเสาร์ (24 มิ.ย.) สำหรับคลี่คลายวิกฤตดังกล่าว ที่ทางเครมลินกล่าวอ้างว่ามีเบลารุสเป็นคนกลาง "ผมรู้มาว่าเราประเมินว่าพวกเขากำลังเจอกับบางอย่างที่รุนแรงและนองเลือดมากกว่านี้" ซีเอ็นเอ็นอ้างคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ ตามรายงานของสำนักข่าวอาร์ทีนิวส์
ในท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีการสู้รบจากฝั่งมอสโก ทั้งที่คาดหมายว่าจะมีการต้านทานอย่างดุเดือด ในขณะที่เยฟเกนี ปรีโกจิน หัวหน้ากลุ่มวากเนอร์ อ้างเหตุผลของการยุติการเดินทัพ ว่าเป็นความปรารถนาหลีกเลี่ยงการนองเลือด
ซีเอ็นเอ็นอ้างแหล่งข่าวรายงานไม่กี่วันก่อนหน้าการเดินทัพของวากเนอร์ หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ประเมินแล้วว่า ปรีโกจินกำลังท้าทายพวกผู้นำรัสเซีย แต่ไม่ชัดเจนว่าเขาจะท้าทายตัวประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน หรือบรรดาผู้นำกองทัพที่เขาส่งเสียงคร่ำครวญมาช้านาน
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุด ปรีโกจินก็ตกลงเดินทางออกจากรัสเซียไปเบลารุส อ้างอิงจากคำกล่าวอ้างของวังเครมลิน ในข้อตกลงที่มี อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุสเป็นคนกลาง ทว่าจนถึงตอนนี้ถิ่นพำนักปัจจุบันของ ปรีโกจิน ยังคงไม่แน่ชัด
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินระบุว่าจะมีการถอนข้อหาอาญา ปรีโกจิน ด้วยเช่นกัน แต่ยังคงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าว
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ อ้างว่าการก่อกบฏที่แท้งไปแล้วของกลุ่มวากเนอร์ อาจบอกเป็นนัยถึงภาวะไร้เสถียรภาพครั้งใหญ่ของรัฐบาลปูติน และเป็นการเปิดโอกาสให้ยูเครนทวงคืนดินแดนที่ถูกยึดโดยกองกำลังมอสโก
"มันเป็นความท้าทายโดยตรงต่ออำนาจของปูติน ดังนั้นมันจึงเกิดคำถามที่ลึกซึ้งต่างๆ" บลิงเคน ให้สัมภาษณ์กับซีบีเอสนิวส์ในวันอาทิตย์ (25 มิ.ย.) "มันแสดงให้เห็นถึงรอยร้าวอย่างแท้จริง เราไม่อาจคาดเดาหรือรู้ว่ามันจะมุ่งหน้าไปในทิศทางไหน แต่ที่เรารู้คือ ปูติน มีคำถามมากมายให้ต้องตอบในอีกหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนข้างหน้า"
ปรีโกจิน ทำการก่อกบฏในช่วงเย็นวันศุกร์ (23 มิ.ย.) ในสิ่งที่เขาอ้างว่าเป็นความพยายามขับไล่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพรัสเซีย ซึ่งเขากล่าวหาว่าทรยศ อย่างไรก็ตาม กองกำลังติดอาวุธหนักของเขาเผชิญการต่อต้านเพียงเล็กน้อยในการยึดกองบัญชาการต่างๆ ของมณฑลทหารใต้ ในเมืองรอสตอฟ ออน ดอน
ระหว่างก่อการลุกฮือ ปรีโกจินอ้างว่ากองกำลังของเขาสอยร่วงเฮลิคอปเตอร์ของรัสเซียลำหนึ่ง และมีรายงานไม่ได้รับการยืนยันว่ามีอากาศยานทางทหารหลายลำถูกกลุ่มวากเนอร์ยิงตก และบ่งชี้ว่านักธุรกิจอย่าง ปรีโกจิน ตกลงจ่ายเงินชดใช้สำหรับความสูญเสียที่เกิดจากการกระทำของเขา
(ที่มา : ไอเอฟพีนิวส์/อาร์ทีนิวส์)
