สื่อดังของอเมริกา วอลล์สตรีทเจอร์นัล เผย ก่อนก่อกบฏ “ปรีโกจิน” วางแผนจับทั้งรัฐมนตรีกลาโหม และผู้บัญชาการกองทัพรัสเซีย พร้อมกับอ้างแหล่งข่าวบอกว่าหากแผนการนี้ไม่รั่วไหลเสียก่อน ก็อาจสำเร็จลุล่วง ในอีกด้านหนึ่ง รัฐมนตรีกลาโหมยูเครนปลอบพวกชาติสนับสนุนว่า การปฏิบัติการตอบโต้ที่เคียฟทำอยู่ในตอนนี้ยังเป็นแค่ “ตัวอย่าง” โดยที่กองทหารผ่านการฝึกจากตะวันตกและอาวุธจากตะวันตกอีกมากมายยังไม่ได้ถูกส่งเข้าสนามรบ
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานเมื่อวันพุธ (28 มิ.ย.) โดยอ้างพวกเจ้าหน้าที่ฝ่ายตะวันตกหลายราย ระบุว่า ในการก่อการกบฏที่ล้มเหลวไป จริงๆ แล้ว เยฟเกนี ปรีโกจิน ผู้ก่อตั้งและผู้นำของบริษัททหารรับจ้าง วากเนอร์ กรุ๊ป ต้องการจับกุม เซียร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย และ พล อ.วาเลรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการของกองทัพรัสเซียเอาไว้ ขณะที่ทั้งคู่เดินทางไปยังภูมิภาคใกล้ๆ กับชายแดนยูเครน
ทว่า 2 วันก่อนการเดินทางดังกล่าว หน่วยความมั่นคงกลางของรัสเซีย (เอฟเอสบี) ล่วงรู้แผนของปรีโกจิน โดย วิกเตอร์ โซโลตอฟ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันประเทศของรัสเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียเมื่อวันอังคาร (27) ว่า ได้รับข้อมูลที่รั่วไหลมาจากค่ายของปรีโกจินว่า แผนการดังกล่าวจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 มิถุนายน ซึ่งก็ตรงตามนั้น
โซโลตอฟเสริมว่า หน่วยข่าวกรองตะวันตกล่วงรู้แผนการของปรีโกจินก่อนที่จะมีการดำเนินการเช่นเดียวกัน
เจ้าหน้าที่ตะวันตกหลายคนลงความเห็นกับวอลล์สตรีทเจอร์นัลว่า ถ้าแผนการไม่รั่วไหล มีโอกาสมากที่ปรีโกจินจะทำสำเร็จ
หลังจากตระหนักว่า ทางการรัสเซียล่วงรู้แผนการของตนแล้ว ปรีโกจินจึงเปลี่ยนไปใช้แผนสำรอง โดยสั่งนักรบวากเนอร์หลายพันคนเคลื่อนทัพมุ่งหน้าสู่กรุงมอสโก แต่หยุดรออยู่ห่างจากทางใต้ของเมืองหลวงราว 200 กิโลเมตร
รายงานนี้ของวอลล์สตรีทเจอร์นัล ออกมาหลังจากนิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อวันอังคาร โดยอ้างพวกเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของอเมริกาเปิดเผยว่า วอชิงตันกำลังสืบสวนว่าพล อ.เซียร์เก ซูโรวิกิน รองผู้บัญชาการกองกำลังรัสเซียในยูเครน ซึ่งเป็นผู้ที่สนิทใกล้ชิดกับปรีโกจิน เข้าร่วมการก่อกบฏของปรีโกจินด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ ซูโรวิกิน ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการกองกำลังรัสเซียในยูเครน เป็นเวลาราว 3 เดือน ก่อนที่เกราซิมอฟจะได้รับแต่งตั้งให้ไปทำหน้าที่นี้แทนเมื่อเดือนมกราคม และ ซูโรวิกิน ถูกลดอำนาจหน้าที่ลงมาเป็นรองผู้บัญชาการ
ถึงแม้ ปรีโกจิน กระทำตามแผนการก่อกบฏของเขาไม่สำเร็จ แต่ฝ่ายตะวันตกก็พยายามกระพือความคิดเห็นที่ว่า การที่ทหารรับจ้างของเขาเข้ายึดเมืองรอสตอฟ ซึ่งเป็นที่ตั้งกองบัญชาการทหารรัสเซียในเขตภาคใต้ โดยมีการต่อต้านน้อยมาก อาจบ่งชี้ว่า นายทหารระดับสูงบางคนของรัสเซียอาจร่วมมือกับปรีโกจิน
เวลานี้ ปรีโกจิน ได้เดินทางไปถึงเบลารุส ตามข้อตกลงยอมถอยที่เขาทำกับทาง ปูติน โดยมีประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก เป็นคนกลาง แต่ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ปรีโกจินยังสามารถสั่งการนักรบวากเนอร์ที่เหลืออยู่จากเบลารุสได้หรือไม่ โดย พลจัตวาแพต ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า อเมริกาเชื่อว่า นักรบวากเนอร์บางส่วนยังอยู่ในยูเครน แต่เขาไม่รู้ว่า นักรบเหล่านั้นมีแผนจะเข้าร่วมกับกองทัพรัสเซียเพื่อสู้รบในยูเครนต่อไปหรือไม่
ในอีกด้านหนึ่ง หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ของอังกฤษ รายงานเมื่อวันพุธโดยอ้างการให้สัมภาษณ์ของ อเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครนว่า เคียฟยังไม่ได้นำกองทหารที่ได้รับการฝึกจากตะวันตกเข้ามาใช้การปฏิบัติการรุกตอบโต้รัสเซีย และเสริมว่า การที่กองทหารยูเครนบุกชิงหมู่บ้านเล็กๆ จากแนวป้องกันหลักของรัสเซียคืนมา ซึ่งปรากฏเป็นข่าวอยู่ในเวลานี้ เป็นเพียง “ตัวอย่าง” เท่านั้น
เรซนิคอฟแจงว่า กำลังทหารหลักซึ่งรวมถึงกองพลน้อยส่วนใหญ่ที่ได้รับการฝึกจากตะวันตก อีกทั้งมีรถถังและยานยนต์หุ้มเกราะของนาโต ยังไม่ได้เข้าสู่ปฏิบัติการตอบโต้แต่อย่างใด
เขายังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิวัติที่ล้มเหลวของวากเนอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เป็น “ภาพชัดเจนสมจริง” ที่โชว์จุดอ่อนของมอสโก และช่วยให้ตะวันตกตระหนักว่า การลงทุนกับยูเครนเป็นสิ่งที่เหมาะสม และชัยชนะของยูเครนเป็นเรื่องจริงที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
อย่างไรก็ตาม เรซนิคอฟยอมรับว่า การก่อกบฏของวากเนอร์ไม่ได้ส่งผลต่อกองกำลังรัสเซียในแนวหน้า และไม่มีสัญญาณว่า ทหารเหล่านั้นเสียกำลังใจแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ยูเครนเริ่มปฏิบัติการตอบโต้ที่รอคอยมานานเมื่อต้นเดือนนี้ โดยใช้รถถังลีโอพาร์ด 2 ของเยอรมนี ยานรบแบรดลีย์ของอเมริกา และอาวุธอื่นๆ ของตะวันตก
อย่างไรก็ตาม มอสโกระบุว่า เคียฟยังไม่สามารถรุกคืบอย่างชัดเจน แต่สูญเสียหนักมาก
สัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ เซเลนสกี ยอมรับว่า ปฏิบัติการตอบโต้มีความคืบหน้าช้ากว่าที่ต้องการ และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บอกกับเครือข่ายซีเอ็นเอ็นว่า ปฏิบัติการของเคียฟไม่ตรงตามความคาดหวังในทุกด้าน
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, อาร์ที, นิวยอร์กโพสต์)