วอชิงตันควรจัดหาระเบิดพวง (cluster bomb) ที่ยิงด้วยปืนใหญ่ให้แก่ยูเครน กลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เร่งเร้าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในจดหมายฉบับหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของเว็บไซต์ Foreign Policy ในช่วงต้นสัปดาห์ แม้ในข้อเท็จจริงคือระเบิดลูกปรายเป็นอาวุธต้องห้ามภายใต้อนุสัญญาฉบับหนึ่งของสหประชาชาติ
Foreign Policy ระบุว่า คลัสเตอร์บอมบ์จะบรรจุลูกระเบิดขนาดเล็ก (submunitions) ไว้ภายในจำนวนมาก ซึ่งจะปล่อยออกมาระหว่างพุ่งไปในอากาศและกระจัดกระจายทั่วพื้นที่เป้าหมาย ปกติแล้วมันถูกใช้สำหรับต่อต้านยานเกราะเบา ขณะที่ระเบิดที่ออกแบบโดยสหรัฐฯ นี้ ยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะกระสุนระเบิดทวิประสงค์ (dual-purpose improved conventional munitions หรือ DPICMs) ที่สามารถเจาะเกราะที่หนา 4 ถึง 8 นิ้ว (10 ถึง 20 เซนติเมตร)
ระเบิดพวงมีอัตราความคลาดเคลื่อนผิดพลาดจากเป้าหมายและไม่ระเบิดสูง ทำให้ลูกระเบิดขนาดเล็กตกค้างเป็นเวลานานหลายทศวรรษ บนพื้นดินในดินแดนต่างๆ ที่เคยเกิดความขัดแย้ง ด้วยเหตุนี้มันจึงก่อให้เกิดการบาดเจ็บและสูญเสียชีวิตของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ได้ในภายหลัง และจากข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ มากกว่า 110 ชาติ ในนั้นรวมถึงสมาชิกนาโตหลายประเทศแบนการใช้ระเบิดพวงภายในอนุสัญญาฉบับหนึ่งของสหประชาชาติ ย้อนกลับไปในปี 2008
สหรัฐฯ ไม่ได้เข้าร่วมในอนุสัญญาดังกล่าว แต่แบนการส่งออกระเบิดพวงที่มีอัตรากระสุนด้านมากกว่า 1% ในปี 2009 การแบนครอบคลุมคลังอาวุธที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้งหมด ทว่าในเวลานี้ บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พยายามผลักดันให้มีการโอนถ่ายระเบิดชนิดนี้ไปยูเครน สำหรับใช้ในโซนขัดแย้งหนึ่งๆ
"ระหว่างสงครามเย็น DPICMs ถูกพัฒนาขึ้นมาและใช้อย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อต่อต้านความเหนือกว่าเชิงตัวเลขและรูปธรรมของรัสเซีย" โจ วิลสัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากรีพับลิกันเขียนในจดหมาย "ตอนนี้สามารถระบุในเจตนาได้ว่า มีความตั้งใจใช้พวกมันในการป้องกันยูเครน" พร้อมบอกว่า "มันจะเป็นการรับใช้ความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน"
"ให้เราใช้สิ่งที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์นี้ คลังแสงที่ใหญ่โตรับใช้ชัยชนะของยูเครน และทวงสันติภาพคืนสู้ยุโรป" จดหมายระบุ
เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ พูดถึงความต้องการจัดหาอาวุธดังกล่าวให้แก่ยูเครนว่า "หน่วยวิเคราะห์ด้านการทหารของเรา ยืนยันว่า DPICMs จะเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะกับฐานที่มั่นต่างๆ ที่หนาแน่นของรัสเซียในสนามรบ" ลอรา คูเปอร์ รองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ด้านรัสเซีย ยูเครนและยูเรเซีย กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของยูเครน ซึ่งส่วนใหญ่แทบหยุดชะงัก ไม่สามารถรุกคืบได้มากเท่าไหร่
ก่อนหน้านี้ เซียร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เคยเตือนวอชิงตันเกี่ยวกับการส่งระเบิดพวงไปยูเครน โดยบอกว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะก่อผลสนองกับทั้งความมั่นคงของนาโตเอง และความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ
เคียฟ ส่งเสียงเรียกร้องซ้ำๆ ร้องขอกระสุนระเบิดพวงต่างๆ จากสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึง MK-20 ซึ่งเป็นประเภททิ้งจากอากาศ ในขณะที่พวกเขาหาทางเล่นงานกองกำลังรัสเซียผ่านการหย่อนลงจากโดรน นอกจากนี้ กระสุนระเบิดพวงประเภทที่ยิงออกจากปืนใหญ่อยู่ในบัญชีที่พวกเขาต้องการเช่นกัน
ที่ผ่านมา บรรดาเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บอกว่าพวกเขาไม่ได้ "กำลังพิจารณาอย่างกระตือรือร้น" ในการจัดหาระเบิดพวงแก่เคียฟ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโจ ไบเดน สามารถยกเว้นข้อจำกัดการส่งออกได้ทุกเมื่อ
(ที่มา : ฟอริน โพลิซี/อาร์ทีนิวส์)